ในระหว่างวันที่ 19 – 23 มกราคมนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนมีกำหนดการเยือนซาอุดีอาระเบีย อียิปต์และอิหร่าน 3 ประเทศตะวันออกกลาง

"การทูตสไตล์สี จิ้นผิง"หากมองจากแง่มุมทั้งโลก ภูมิภาคและทวิภาคี การพิจารณาและจัดการความสัมพันธ์กับตะวันออกกลางโดยเฉพาะสามประเทศดังกล่าว นับว่ามีความหมายสำคัญยิ่ง

ประการแรก ด้านยุทธศาสตร์และท่าที การเยือนครั้งนี้มีความสำคัญในการปรับปรุงและส่งเสริมการวางแผนทางการทูตของจีน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิงได้ออกไปเยือนต่างประเทศ 19 ครั้ง แต่นายสี จิ้นผิงไม่เคยไปเยือนประเทศในเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ ดังนั้น การทูตของสี จิ้นผิงจึงจะให้ความสำคัญในประเทศเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ จีนจะใช้ท่าทีแข็งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงตกอยู่ในภาวะการปะทะกันของตะวันออกกลาง และจะเสนอแผนการมากขึ้นเพื่อแสดงบทบาทสำคัญในด้านนี้

สอง เป้าหมายและหลักการ การเยือนครั้งนี้มีลักษณะพิเศษแบบจีนเอง ที่ไม่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ในตะวันออกกลาง และไม่คิดแย่งชิงอำนาจในการเป็นเจ้าโลก แต่ใช้ท่าทีทางภววิสัยและเป็นธรรมแก้ข้อพิพาทระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อให้ตะวันออกกลางมีสันติภาพและความสงบ นอกจากนี้ จีนยืนหยัดใช้ท่าทีที่มุ่งสันติภาพ มีการพัฒนา การเจรจาและความร่วมมือในด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ยืนหยัดการเคารพกันและดำเนินความร่วมมือเพื่อได้ชัยชนะด้วยกัน และบรรลุซึ่งการพัฒนาร่วมกัน

สาม ด้านขอบเขตและความสำคัญ การเยือนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทิศทางการทูตแบบสี จิ้นผิง เมื่อเร็วๆ นี้ จีนประกาศเอกสารว่าด้วยนโยบายต่อประเทศอาหรับของจีน โดยกำหนดแผนที่ความร่วมมือ 5 ด้าน ความสำคัญของการเยือนครั้งนี้คืออยู่ภายใต้กรอบหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและมุ่งพัฒนาตามสูตรความร่วมมือ1+2+3 ที่หมายถึง 1 คือความร่วมมือด้านพลังงาน 2คือการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานและการลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้า และ3คือพลังนิวเคลียร์ การบินและพลังงานใหม่ซึ่งเป็น 3 นิวไฮเทค

ในสภาพที่ตะวันออกกลางมีความสัมพันธ์สลับซับซ้อน ผู้นำจีนยังคงเริ่มการเยือนตะวันออกกลางตามเวลากำหนดอย่างเด็ดเดี่ยว แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความรับผิดชอบทางการทูตที่มีเอกลักษณ์ของจีน

yim/kt