นอกจากเหตุการณ์ปล่อยน้ำเพิ่ม อีกเหตุการณ์สำคัญคือ มีการจัดประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงที่เมืองซานย่า มณฑลไห่หนานของจีน นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และผู้นำจากอีก 4 ประเทศ ได้แก่ พม่า กัมพูชา ลาว และ เวียดนามได้ร่วมประชุมครั้งนี้

การประชุมฯครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมกันหารือการพัฒนากลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างในการพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับวาระของอาเซียนในการลดช่องว่างการพัฒนาในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงผลักดันให้บรรลุเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติที่ให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. 2030 และความร่วมมือแบบใต้-ใต้ หรือระหว่างประเทศกำลังพัฒนากับประเทศกำลังพัฒนา

ก่อนจัดการประชุมครั้งนี้ จีนริเริ่มและมีบทบาทนำในการจัดตั้ง "ศูนย์ความร่วมมือทรัพยากรน้ำแม่น้ำโขง" ทำให้เกิดความร่วมมือรอบด้านในการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำสายนี้ ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล การเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับภัยแล้งและน้ำท่วม ด้วยสาเหตุเหล่านี้ 6 ประเทศตามลุ่มแม่น้ำโขงจึงต้องร่วมกันกำหนดแผนการทำงานที่ชัดเจน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

กลไกความร่วมมือครั้งนี้มีขอบเขต 3 ด้านใหญ่คือ 1.ด้านการเมือง ซึ่งต้องไว้เนื้อเชื่อใจกัน 2. ด้านความปลอดภัยของลำน้ำ รวมทั้งการปราบปรามการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าของเถื่อน และโจรสลัด 3. ด้านสังคม รวมถึงคุณภาพน้ำ สิ่งแวดล้อม กระตุ้นการไปมาหาสู่และเชื่อมความรู้ความเข้าใจระหว่างประชาชน

นอกจากนี้ ยังจะเน้นความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งและการสื่อสารโทรคมนาคม อุตสาหกรรมและการผลิต เศรษฐกิจข้ามแดน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การเกษตรและการลดความยากจนในเบื้องต้นของการก่อตั้งกรอบความร่วมมือ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ปรากฏอย่างชัดเจนในปฏิญญาซานย่าและแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิต เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและยังประโยชน์ที่เท่าเทียมแก่ประเทศสมาชิก โดยจะมีการตั้งคณะทำงานในสาขาต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการและติดตามความคืบหน้าให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในภาพรวมด้วย