วันที่ 31 พฤษภาคมเป็นวันงดสูบบุหรี่สากล และเป็นวันครบรอบ 1 ปีการดำเนินมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นมาตรการที่เข้มงวดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ภายในอาคาร ยานพาหนะสาธารณะ และสถานที่สาธารณะแบบปิดทั้งหมด มีโทษปรับปรับสูงสุดไม่เกิน 200 หยวนในรายบุคคล และไม่เกิน 10,000 หยวนสำหรับนิติบุคคล

ในเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ชาวปักกิ่งบางคนเห็นว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะได้ลดน้อยลง ร้านอาหารและโรงแรมต่างได้ยกเลิกบริการพื้นที่สูบบุหรี่ภายในห้อง ขณะเดียวกันประชาชนทั่วไปก็มีความมั่นใจมากขึ้นในการห้ามปรามผู้สูบบุหรี่ นอกจากความรู้สึกเหล่านี้แล้ว ผลสำเร็จด้านการควบคุมการสูบบุหรี่ยังเห็นได้จากสถิติด้วย โดยพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในพื้นที่ต้องห้ามลดลงจาก 23.1% เมื่อ 1 ปีก่อนเป็น 6.7% ในปัจจุบัน

ปัจจุบัน สิบกว่าเมืองของจีนได้ประกาศระเบียบว่าด้วยการควบคุมการสูบบุหรี่ ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ส่งเสริมการบัญญัติกฎหมาย ปลายปี 2014 คณะรัฐมนตรีจีนได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ กระทั่งปีนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวถูกบรรจุไว้ในแผนนิติบัญญัติที่ต้องดำเนินการก่อน และคาดว่าจะประกาศใช้ภายในปีนี้ ตามร่างกฎหมายดังกล่าว จะห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะภายในอาคารทั้งหมด

นางพัน เจี๋ยหลัน ที่ปรึกษาระดับสูงฝ่ายผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำจีนเห็นว่า ประสบการณ์ของกรุงปักกิ่งแสดงให้เห็นว่า การห้ามสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่ทำได้ ถึงเวลาที่จะออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ทั่วประเทศแล้ว ซึ่งกฎหมายนี้อ้างอิงจากกรอบการควบคุมบุหรี่ขององค์กรอนามัยโลกว่า ห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะในห้องทั้งหมด

จีนเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดทั้งในด้านการผลิตและบริโภคบุหรี่ โดยมีประชากรสูบบุหรี่กว่า 300 ล้านคน และแต่ละปีมีผู้คนประมาน 1 ล้านคนเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้อง

Toon/Ldan