จีน ---ประเทศที่มีประวัติ 5000 ปี (3)a
  2017-06-12 15:04:22  cri

กษัตริย์ โจ้ว เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซาง ได้ชื่อว่าสามานย์กว่ากษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์เซี่ยอีก หากมีผู้แสดงความไม่พอใจพระองค์ ก็จะต้องถูกลงทัณฑ์อย่างโหดร้าย โดยบังคับให้ผู้ที่แสดงความไม่พอใจเดินไปบนแผ่นทองแดงที่มีถ่านไฟอยู่ข้างใต้ การแสดงความสำราญของกษัตริย์พระองค์นี้ก็พิสดารจนเหลือเชื่อ เช่น ใช้น้ำสุราแทนน้ำในสระ แขวนเนื้อไว้กินตามต้นไม้ ประชาชนทั่วไปชิงชังกษัตริย์ โจ้วอย่างมาก ทั้งนี้ทำให้โจวอู่หวาง เจ้าผู้ครองรัฐโจว เมืองขึ้นของราชวงศ์ซางได้จังหวะยกกองทัพจากบริเวณลุ่มแม่น้ำเว่ยทางภาคตะวันตกของราชวงศ์ซางเข้าโจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์ซาง กองทัพรัฐโจวได้พันธมิตรมากมาย ซึ่งพันธมิตรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซาง และถูกกดขี่อย่างทารุณมากจากราชวงศ์ซางทั้งสิ้น กองทัพรัฐโจวสู้รบกับกองทัพของราชวงศ์ซางอย่างดุเดือด ระหว่างนั้น กำลังทหารส่วนใหญ่ของราชวงศ์ซางกำลังสู้รบกับชนเผ่าอี๋ตะวันออกในพื้นที่อื่น กษัตริย์โจ้ว จึงเกณฑ์พวกทาสให้ออกไปรบแทนกองทัพราชวงศ์ซาง แต่ปรากฏว่า พวกทาสหันไปสนับสนุนกองทัพรัฐโจว พร้อมใจกันช่วยกองทัพรัฐโจวเข้าโจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์ซาง กษัตริย์โจ้วเห็นไม่มีทางสู้ จึงกระโดดเข้าไปในกองไฟที่กำลังไหม้พระราชวังจนสิ้นพระชนม์ ราชวงศ์ซางถึงกาลอวสานลงในตอนกลางศตววรรษที่ 11 ก่อนคริสตศักราช ราชวงศ์ซางมีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกัน 30 องค์ 17 ชั่วคน เป็นระยะเวลาประมาณ 496 ปี

 

หลังพิชิตราชวงศ์ซางแล้ว โจวอู่หวางก็ได้สถาปนาราชวงศ์โจวขึ้น แล้วแต่งตั้งผู้มีความดีความชอบให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ และพระราชทานที่ดินให้ผู้ที่เกี่ยวดองกับราชตระกูล บรรดาเจ้าที่ดินศักดินาที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากกษัตริย์โจวนั้นมีอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือที่ดินของตน เท่ากับเป็นอาณาจักรของตนที่ตนมีอำนาจปกครองโดยเด็ดขาด

กษัตริย์โจวอู่หวาง ยังพระราชทานที่ดินให้แก่อู่เกิง โอรสของกษัติริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ซาง โดยให้ปกครองเมืองหลวงเก่าของราชวงศ์ซาง ขณะเดียวกัน แต่งตั้งพระอนุชาของพระองค์เอง คือก่วนซู และไช่ซู เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลความประพฤติของอู่เกิง

ต่อมาอีกสองปี กษัตริย์โจวอู่หวางสิ้นพระชนม์ ซ่ง ราชโอรสที่มีพระชนมายุเพียง 13 พรรษาได้ขึ้นครองราชย์โดยมี โจวกง พระอนุชาของโจวอู่หวาง เป็นผู้สำเร็จราชการ แต่ก่วนซู และไช่ซู พระอนุชา ของโจวอู่หวาง ไม่พอใจ โจวกง เป็นผู้สำเร็จราชการ จึงได้ฉวยโอกาสก่อกบฏ โจวกง ยกทัพไปปราบ ใช้เวลา 3ปีจึงสามารถพิชิตกบฏได้ราบคาบ

ในระหว่างบริหารราชการแผ่นดินอยู่ 7 ปี โจวกงได้กำหนดระเบียบขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ตลอดจนพิธีกรรมในพระราชสำนัก ภายใต้การบริหารของโจวกง บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ช่วงเวลานั้น แทบไม่มีการลงโทษผู้กระทำผิด เพราะไม่มีผู้กระทำผิด

ในยุคนั้น ตามชนบท ชาวนาอยู่ร่วมกันอย่างเป็นชุมชนครัวญาติ ถิ่นที่อยู่อาศัยและทำกินเป็นการถาวร โดยมีนาที่เปิดโล่งรายรอบ ชาวนามีบ้านของตนเอง มีที่ทำกิน ระหว่างชาวนาด้วยกัน มีฐานะไม่ต่างกันมากนัก ชาวนาต้องทำงานทั้งในไร่นาและในบ้าน เพื่อจัดหาอาหารและเสื้อผ้าให้เจ้านาย นอกจากนี้ ยังต้องถูกบังคับกะเกณฑ์ ซึ่งเป็นการรับใช้เจ้านายอีกประเภทหนึ่ง อย่างเช่นการสร้างกำแพงเมือง การซ่อมแซมพระราชวัง

เครื่องมือทำไร่ไถนาในสมัยราชวงศ์โจวไม่แตกต่างไปจากราชวงศ์ซางมากนัก แต่ผลผลิตดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิต รวมทั้งชาวนาทั่วไปและทาสมีความรู้การทำไร่ทำนามากขึ้นจากประสบการณ์ในระยะเวลาอันยาวนาน วิธีการหลักในการทำไร่ทำนาเป็นการไถที่ให้ได้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้คุณภาพดินดีขึ้น วิธีการทำนาดังกล่าวเป็นการพัฒนาที่ก้าวหน้า และก็ค่อยๆ เข้าแทนที่วิธีการทำไร่เลื่อนลอยด้วยการโค่นต้นไม้ แล้วเผาให้ราบจนเตียน เทคนิคในการระบายน้ำและชลประทานแบบง่ายๆ ก็มีการปรับปรุงดีขึ้นกว่าเดิม ชาวนาปลูกข้าว ข้าวสาลี ต้นหม่อน งา และผลไม้ ซึ่งมีหลากหลายชนิดกว่าสมัยราชวงศ์ซาง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040