กาสะลองส่องจีน ตอน 92 : แจ๊ค หม่า ลงทุนเพิ่มใน "ลาซาด้า" อีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
  2017-07-07 16:42:03  cri

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผมกำลังไถ ๆ ไอแพดเพื่อตามข่าวสารในเฟซบุ๊กก็ไปสะดุดเจอโพสต์ของนักวิจัย SIU ท่านหนึ่ง พูดถึงเรื่อง "ยักษ์ใหญ่วงการรีเทลไทย" ที่ไม่มีทางทำอี-คอมเมิร์สได้สำเร็จ โพสต์นี้ทำให้ผมกลับไปนึกถึงตัวเองที่เคยทดลองใช้บริการลาซาด้า เพื่อสั่งซื้อกระบอกน้ำสูญญากาศไว้ตุ๋นสมุนไพรลดไขมันในเส้นเลือดให้แม่เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ

ผมไม่แน่ใจว่าท่านอื่น ๆ จะมีประสบการณ์อย่างไรกับเจ้าที่ผมใช้บริการนี้หรือไม่ ไม่แน่ใจว่าการบริการก่อนและหลังจาก แจ๊ค หม่า เข้ามาซื้อหุ้นเกินกึ่งหนึ่งเมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้วจะทำให้เขาเอาแม่แบบการขนสงที่ได้มาตรฐานในจีนมาปรับใช้ในบ้านเราให้ดีขึ้นหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัว (ในฐานะผู้ที่ไม่ได้เงินสนับสนุนใด ๆ) รู้สึกประทับใจกับความเอาใจใส่ของเจ้านี้มาก ๆ ครับ

เหตุผลก็เพราะระบบติดตามต่าง ๆ ระยะเวลาการจัดส่ง หรือแม้แต่สภาพสินค้านั้นเขาทำได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการที่ผมจะสั่งซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่งผ่าน Taobao หรือ Tmall 2 อี-คอมเมิร์สยักษ์ใหญ่ในจีนเลย เพราะนอกจากจะสามารถใช้โค้ดเพื่อเป็นส่วนลดจากที่ก็ลดอยู่ได้แล้ว ช่องทางการชำระเงินยังสะดวกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการยื่นหมูยื่นแมว คือแนว ๆ ว่าของต้องมาเงินถึงไป หรือผู้ที่ใช้แล้วไม่ถูกใจก็อยากเปลี่ยนสินค้า และที่สำคัญกว่าคือการแก้ปมของคนไทยที่ยังไม่ค่อยจะไว้ใจเรื่องการขนส่ง ลาซาด้าเองได้ทำรายกรอบตรงนี้ด้วยการมีระบบติดตามที่จะคอยแจ้งอยู่ตลอดทางอีเมลและโทรศัพท์มือถือว่าสินค้าอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง

ผ่านไปปีเศษ ๆ จนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าวหลายแห่งในจีนนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มอาลีบาบาที่ได้ไปลงทุนในลาซาด้าอีกครั้งครับ แต่ครั้งนี้เป็นการเพิ่มทุนอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 51% เป็น 83% เรียบร้อยโรงเรียนจีน

ตลอด 1 ปีที่ลาซาด้าภายใต้การนำทัพของแจ๊ค หม่าเข้ามาตีตลาดอาเซียน เราได้เห็นการเกิดขึ้นของอี-คอมเมิร์สรูปแบบเดียวกันนี้หลายเจ้า ที่ปิดตัวไปก็ไม่น้อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลผู้ที่ได้ประโยชน์สุดจากการแข่งขันของพวกเขาก็คือพวกเราเหล่าผู้บริโภคนี่เอง ที่ได้รับการบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนไทยในต่างจังหวัดที่ก็ดูจะมีความมั่นอกมั่นใจกับการซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น (สังเกตจากพี่ป้าน้าอาแถว ๆ บ้านผมนะครับ)

สิ่งที่ผมคาดหวังและคิดว่าจะได้เห็นหลังการทุ่มเงินระลอกสองของอาลีบาบา กรุ๊ปครั้งนี้ คือการเปลี่ยนสภาพสังคมไทยให้เข้าใกล้สังคมไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนความคิดและทัศนคติเรื่องความปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ในประเทศไทยจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของแจ๊ค หม่า รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สำหรับผมแล้วสังคมไร้เงินสดเป็นสิ่งที่ดีครับหากเราเรียนรู้วิธีใช้มันอย่างปลอดภัย ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจน้อย ๆ ให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำให้เกิดจริงให้ได้แล้วกันนะครับ ถือเป็นการสอดรับกับไทยแลนด์ 4.0 ของท่านนายกประยุทธ์ไปด้วยเสียเลย

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040