จัดงานสัมมนาประชาสัมพันธ์นโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่กรุงปักกิ่ง(2)
  2017-08-08 17:33:05  cri

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกล่าวบนเวทีประชาสัมพันธ์ว่า โลกหมุนทุกวัน ทั้งท่านและผมต้องทำงานให้ทันกับโลกที่หมุนไป ตอนนี้ไม่ใช่โลกแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่กลายเป็นปลาเร็วกันปลาทุกชนิดทั้งใหญ่และเล็ก ฉะนั้น ต้องมีความเร่งด่วนในการพัฒนา

ความสัมพันธ์ไทยจีนยืนยาวมากกว่าพันปี ในบางช่วงที่คนจีนลำบาก ก็มีการอพยพไปตั้งรกรากที่เมืองไทย เคยมีข้อมูลระบุไว้ว่าเมื่อพ.ศ. 2453 หรือหนึ่งร้อยกว่าก่อน ปรากฏว่ามีชาวจีนโพ้นทะเลอพยพเข้ามาในประเทศไทยกว่า 800,000 คน หรือคิดเป็น 15% ของประชากรไทยในขณะนั้น ยังไม่นับรวมคนจีนที่มาก่อนหน้าแล้วได้กลายเป็นคนไทยไปแล้ว ที่น่าแปลกคือ คนเหล่านั้นเมื่อข้ามทะเลเข้าถึงไทยแล้วก็ตั้งถิ่นฐาน ในบริเวณอีอีซีเป็นพื้นที่แรกๆ แม้หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลไทยและจีนจะมีปัญหากันบ้าง แต่คนจีนโพ้นทะเลในเมืองไทยกับคนไทยไม่ได้มีปัญหาไปตามรัฐบาล และอยู่กันอย่างสงบสุข ลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเลมีความสุขในไทย และบริษัทของจีนโพ้นทะเลที่เจริญก้าวหน้าในประเทศไทย ก็ได้กลับมาสร้างความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้นตลอดเวลา

ฉะนั้น ลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเลที่ได้อยู่ดีกินดีในประเทศไทยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนรุ่นเก่าไปอยู่ได้ คนรุ่นใหม่ก็สามารถอยู่ดีกินดีได้เช่นกัน การลงทุนในอีอีซีจะไม่ใช่เน้นเฉพาะการขยายธุรกิจตามนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสานความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างไทย-จีน ที่มีอยู่ในอดีตให้เกิดขึ้นใหม่ และเป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่เป็นความริเริ่มใหม่ของรัฐบาลที่ต้องการจะสร้างประโยชน์สุขร่วมกัน

สองสามปีนี้ เศรษฐกิจโลกก็การเปลี่ยนแปลงผิดปรกติใหญ่โดยไม่เคยมีมาก่อน การต่อต้านการค้าเสรีด้วยนโยบาย American First และการปกป้องตัวเองของอังกฤษด้วยนโยบายถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ทำให้เศรษฐกิจโลกในขณะนี้ค่อนข้างไม่มั่นคง นโยบายดังกล่าวคงนำไปสู่การบังคับมากกว่าการร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งชาวเอเชียเรานั้นไม่ชอบการบังคับอย่างไร้เหตุผล หลังจากได้ร่วมงานสัมมนาว่าด้วยนโยบายการค้าและการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศเพื่อหาแนวทางของเอเชียในสถานการณ์นี้ ทางออกทางเดียวคือประเทศในเอเชีย รวมทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทยและอาเซียน อินเดียและประเทศอื่นๆ จะต้องจับมือกัน ขยายการค้า การลงทุน การเงินและความร่วมมือเพื่อก้าวไปข้างหน้า

ในกรณีของประเทศไทย รัฐบาลไทยได้เดินหน้าผลักดันนโยบายหลายต่อหลายเรื่อง และนโยบายใหม่ที่สำคัญที่สุดก็คือ "ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก" หรืออีอีซี อีอีซีเกิดขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยหวังให้เป็นศูนย์กลางแห่ง

หนึ่งของเอเชีย ในการผลักดันการค้า การลงทุนและการร่วมมือการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดบริเวณภาคตะวันออกของกรุงเทพฯที่ติดชายทะเลของไทยให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สมบูรณ์แบบเขตหนึ่ง เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ จีนตอนใต้ กัมพูชา ลาว เมียนม่าร์ เวียดนาม ไทยและอาเซียนเข้าด้วยกันในอนาคต

หลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ถ่ายโอนอุตสาหกรรมที่เน้นใช้แรงงานไปยังประเทศCLMVและกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เน้นการพัฒนา การผลิตและการบริการที่มีคุณภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง อีอีซีจึงเน้นเฉพาะการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงมูลค่ารวม 1.5 ล้านลานบาทใน 5 ปี โดยตั้งเป้าให้มีการลงทุน การผลิตและการบิรการที่ใช้นิวไฮเทศ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า อิเล็กโทรนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ไอโอเทค อาหารแห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อากาศยาน ไบโออีคอโนมี เมดิคัลฮับ ดิจิทัล ลงทุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือน้ำลึกเชื่อมด้วยระบบรถไฟทางคู่ รวมงบประมาณเป็น 7 แสนล้านบาท

Toon/Ping

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040