ดังนั้น ถ้าเขาถูกเพื่อนคนอื่นรังแก คิตตี้จะสอนเขาอย่างไรดี จึงเป็นคำถามที่สร้างความกังวลใจให้กับคนเป็นแม่อย่างคิตตี้มาก ความจริง ตัวเลือกข้างต้นที่ให้คุณผู้ฟังลองเลือกดูนั้น คิตตี้ต่างก็คิดอย่างจริงจัง แล้ว สุดท้ายคิตตี้ได้พบวิธีการที่เป็นผลดีต่อการเติบโตของเด็ก วันนี้ ยิ้มกับคิตตี้จะมาแนะนำให้คุณผู้ฟังทราบว่าเป็นวิธีอย่างไรบ้างค่ะ
วิธีการแรกคือ ให้คิดว่าถ้าเด็กๆ มีการทะเลาะกันจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องดี
ในฐานะเป็นคุณพ่อคุณแม่ ต่างก็กังวลว่าถ้าเด็กๆ เกิดทะเลาะกัน ประการแรกคงกลัวว่าเด็กจะได้รับบาดเจ็บ และประการที่ 2 คือเด็กจะแก้ไขข้อขัดแย้งเหล่านี้ไม่ได้
คิตตี้จำได้ว่า จินซิง ดาราจีนเคยเล่าประสบการณ์ที่ลูกชายของเธอถูกเด็กอื่นตีในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ก็คือมีอยู่ครั้ง จินซิงพาลูกชายไปซุปเปอร์มาร์เก็ต และที่นั่นมีรถซื้อของสำหรับเด็ก คือมีรูปร่างเหมือนรถยนต์ ลูกชายของเธอถูกเด็กอื่นมาแย่งแล้วถูกตบหน้า จิงซิงเห็นฉากนี้ในจุดที่ไม่ไกลนัก ใจนึกเจ็บใจแทนลูก พอลูกชายวิ่งปิดหน้ากลับมาหา จินซิงก็พูดด้วยอารมณ์แบบไม่ทันคิดว่า อะไรกัน！ให้คนอื่นมาตีเรา ทำไมไม่ตีกลับไป ลูกชายตอบว่า ผมไม่ตีกลับ เขาตีผมเพราะแม่ของเขาไม่ได้สั่งสอนเขาให้ดีๆ
กลายเป็นจินซิงซึ่งเป็นแม่ต้องกลับมาปรับทัศนะตนเองใหม่ คือ ถ้าลูกทำผิดเองก็ควรรับการลงโทษที่ควรมี แต่ถ้าไม่ใช่ความผิดของลูก ก็ต้องใช้เหตุและผลที่ถูกต้องมาแก้ไขปัญหานั้นๆ
