กาแฟเป็นของนอก ชาวต่างประเทศนำกาแฟเข้ามาบริโภคในจีนตั้งแต่เมื่อศตวรรษที่ 19 กระทั่งมีการนำเมล็ดกาแฟเข้ามาทดลองปลูก ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์พบว่า เมื่อปีค.ศ. 1902 มีบาทหลวงฝรั่งเศสผู้หนึ่งนำเมล็ดกาแฟมาปลูกที่มณฑลหยุนหนานก่อน เมื่อทศวรรษปี 1950 มณฑลหยุนหนานเริ่มปลูกกาแฟอย่างขนานใหญ่ โดยปลูกเมล็ดพันธุ์อราบิก้าเป็นสำคัญ เมื่อปีค.ศ. 1992 สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติช่วยเปิดโรงงานกาแฟที่มณฑลหยุนหนานซึ่งเป็นโรงงานแปรสภาพกาแฟแห่งแรกของจีน จนถึงทุกวันนี้ พื้นที่การปลูกและยอดปริมาณการผลิตกาแฟของมณฑลหยุนหนานต่างอยู่อันดับแรกของจีน

ย้อนไปเมื่อทศวรรษปี 1860 หลังสงครามฝิ่นพร้อม ๆ กับชาวต่างประเทศไปตั้งเขตเช่าที่นครเซี่ยงไฮ้ มีชาวยิวไปเปิดร้านกาแฟที่นครเซี่ยงไฮ้ นักธุรกิจจีนบางคนที่ทำการค้าขายกับชาวฝรั่งเลียนแบบวิถีชีวิตของชาวฝรั่ง กลายเป็นกลุ่มแรกในการบริโภคกาแฟของจีน ก่อนที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อปีค.ศ. 1986 จีนมีน้อยคนดื่มกาแฟ จนกระทั่งบริษัทเนสท์เล่นำกาแฟเครื่องดื่มสีดำรสขมมาสู่จีนเมื่อปี 1988 กาแฟจึงปรากฏตัวในชีวิตประจำวันของคนจีน

กาแฟยี่ห้อเนสท์เล่แนะนำว่า กาแฟเป็นชาของชาวฝรั่ง คำโฆษณาของเนสท์เล่ที่ว่า "เว่ยเต้าเฮ่าจี๋ละ (รสชาติดีเลิศ) ได้เคยเป็นคำติดปากของชาวจีนโดยทั่วกัน หนุ่มๆ สาวๆ ที่นิยมของใหม่เป็นกลุ่มแรกในการบริโภคกาแฟ ตอนนั้น ถ้วยกาแฟสีแดงของเนสท์เล่เป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย จำได้ว่า มีอยู่ช่วงหนึ่ง กาแฟละลายเนสท์เล่ได้เคยเป็นของขวัญยอดนิยมของคนจีน ผู้คนรู้สึกมีหน้ามีตาในการให้กาแฟเนสท์เล่เป็นของขวัญ โดยเฉพาะกาแฟในขวดของเนสท์เล่ เมื่อกาแฟในขวดกินหมดแล้ว ผู้คนก็ไม่ยอมทิ้งขวด จะนำไปตั้งโชว์ในตู้โชว์ที่บ้าน หรือใช้เป็นขวดบรรจุน้ำ จนถึงทุกวันนี้ คิตตี้ เพื่อนร่วมงานของเรายังใช้ขวดกาแฟเนสท์เล่เป็นขวดดื่มน้ำร้อนอยู่ ที่บ้านโจว ยังใช้ขวดกาแฟเนสท์เล่บรรจุถั่ว ข้าวโอ๊ต และน้ำตาล ด้วยเหตุนี้ จากโฆษณาความเรียบง่ายในการปรุงและรสกลิ่นหอมของกาแฟเนสท์เล่ ทำให้ชาวจีนเริ่มมีความนิยมกาแฟมากขึ้น

ช่วงทศวรรษปีค.ศ. 1990 ถือเป็นช่วงรุ่งโรจน์ของกาแฟเนสท์เล่ในจีน สำหรับคนจีน เป็นเวลานานกว่า 10 ปีตั้งแต่กาแฟเนสท์เล่เข้าสู่จีน เข้าใจกันว่า กาแฟก็คือกาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟชงพร้อมดื่ม ไม่ทราบว่ายังมีอเมริกาโน เอสเปรสโซ คาปูชิโน หรือลาเต อย่างมากหน้าหลายตา เวลานั้น จีนไม่ค่อยมีร้านกาแฟ ผู้คนมักจะซื้อกาแฟสำเร็จรูปในร้านขายของ จริงๆ แล้ว ปัจจุบัน ยอดปริมาณการบริโภคกาแฟของคนจีนยังมี 70 % เป็นกาแฟสำเร็จรูปอยู่

จนกระทั่งสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ธุรกิจร้านกาแฟสหรัฐอเมริกามาเปิดร้านแรกในจีนเมื่อปีค.ศ. 1999 คนจีนเริ่มรู้จักร้านกาแฟมากขึ้น พร้อม ๆ กับดนตรีแจ๊ส ภาพวาดสไตล์นามธรรม และกลิ่นหอมของกาแฟคั่ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านกาแฟน่านั่ง