ขยี้ตามองใหม่
  2010-01-18 15:33:54  cri

ขยี้ตามองใหม่

刮 目 相 看

guā  mù  xiāng  kàn 

ในสมัยสามก๊ก นายพลชื่อดังคนหนึ่งของรัฐอู๋นามหลี่ว์เหมิง ในวัยเด็กครอบครัวยากจนมาก ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ต่อมาได้มาอยู่ในกองทหาร นำพลทหารทำการรบ ไม่ค่อยมีโอกาสศึกษาอ่านหนังสือ ระดับความรู้ของเขาไม่สูงนัก จึงเป็นที่ดูถูกดูแคลนของขุนนางผู้ใหญ่บางท่าน.

ครั้งหนึ่ง ซุนกวนเจ้าผู้ครองนครรัฐอู๋เตือนหลี่ว์เหมิงให้ตั้งใจศึกษาอ่านหนังสือ หลี่ว์เหมิงตอบว่า"ข้าพเจ้าวันๆนำทหารทำสงคราม งานในกองทหารมีมากมายจะต้องทำ จะมีเวลาที่ไหนมาอ่านหนังสือเล่า?"

ซุนกวนกล่าวว่า "ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านมีงานมาก แต่เมื่อเปรียบกับข้าพเจ้าแล้วเป็นอย่างไรนะ?ข้าพเจ้าไม่เรียกร้องท่านจะต้องรอบรู้หนังสือประวัติคัมภีร์ต่างๆ แต่ประเภทความรู้ทั่วๆไปท่านจะต้องมีพร้อม เหตุใดท่านไม่พยายามเจียดเวลาศึกษาเองเล่า?" จากนั้น ซุนกวนยังเล่าถึงประโยชน์ที่ตนได้รับจากการอ่านหนังสือ อีกทั้งยังยกตัวอย่างเรื่องราวของจักรพรรดิ์ฮั่นกวนอู่ตี้แม้อยู่ในภาวะสงครามก็ไม่เคบลืมเรื่องที่จะศึกษา จะถือหนังสืออยู่ในมือเสมอ และเรื่องราวของโจโฉที่รักการศึกษาแม้จะมีอายุมากแล้ว.

หลี่ว์เหมิงฟังคำตักเตือนว่ากล่าวของซุนกวนแล้วให้รู้สึกตื้นตันใจยิ่ง จากนั้นมา เขามานะพากเพียรอ่านหนังสืออย่างมิรู้จักเหนื่อยหน่าย ไม่ช้าไม่นาน หนังสือที่เขาอ่านก็มีจำนวนมากกว่าคนทั่วๆไป.

ครั้งหนึ่ง หลู่ซู่นายทหารที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของรัฐอู๋ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งมั่นรักษาการณ์ที่ลู่โข่ว ได้เดินทางผ่านสถานที่ตั้งค่ายทหารของหลี่ว์เหมิง หลู่ซู่นั้นก็ดูถูกหลี่ว์เหมิงมีความรู้น้อย ครั้งนี้ เนื่องจากมีคนกล่าวเตือนเขา อีกทั้งได้ยินมาว่าหลี่ว์เหมิงกำลังมุมานะอ่านหนังสือ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียมารยาท เขาจึงได้ไปเยี่ยมหลี่ว์เหมิง หลี่ว์เหมิงได้พบหลู๋ซู่ มีความยินดียิ่งนัก ได้ให้การต้อนรับเขาอย่างดี จากนั้นก็ถามหลู่ซู่ว่า"ท่านไปตั้งมั่นรักษาการณ์ที่ลู่โข่ว ลู่โข่วนั้นอยู้ใกล้เคัยงนายพลกวนอี่ว์แห่งรัฐสู่ ควรจะร่วมมือกับเขาและระมัดระวังเขาอย่างไร?" หลู่ซู่ไม่ใส่ใจยิ่ง ตอบอย่างไม่นำพาว่า"ข้าพเจ้ายังไม่ได้พิจารณา เมื่อถึงเวลาค่อยว่ากัน" หลี่ว์เหมิงต่อว่าหลู่ซู่มิควรประมาทข้าศึก และว่า"ระยะนี้ข้าพเจ้าอ่านหนังสือไปพลาง ได้จดกลยุทธห้าประการที่ใช้กันประจำด้านการทหารไปพลาง ขอให้ท่านลองอ่านดูสักนิด มิทราบว่าท่านสามารถนำไปพิจารณาใช้ในระหว่างตั้งมั่นรักษาการณ์ที่ลู่โข่วหรือไม่?" หลู่ซู่ได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหลี่ว์เหมิงทันที เขาตบหลังหลี่ว์เหมิงเบาๆ กล่าวว่า"ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเห็นว่าท่านเก่งแต่ทางบู๊ไม่เก่งทางบุ๋น บัดนี้ดูท่าท่านกลับกลายเป็นผู้มีความรู้กว้างขวาง หาใช่เป็นเพียงทหารที่หยาบกร้าน ไม่มีความรู้เช่นเก่าก่อนแล้ว!"

หลี่ว์เหมิงยิ้มแล้วกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเทียบกับท่านหลู่ยังห่างไกลกันมาก แต่ทว่า ชายชาตรีจากกันสามวัน พึงขยี้ตามองใหม่!"

จากนั้นมา หลู่ซู่และหลี่ว์เหมิงกลายเป็นเพื่อนดีของกันและกัน ต่อมา ก่อนที่หลู่ซู่จะเสียชีวิต ยังแนะนำหลี่ว์เหมิงให้รับตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่มณฑลทหารต่อจากเขา.

สำนวน"ขยี้ตามองใหม่"หมายถึงการประเมินบุคคลหนึ่งใหม่ หลังจากจากกันไปชั่วระยะหนึ่ง เพราะเขาเปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่คนเก่าอีกต่อไป หรือเป็นการอุปมาให้ความสำคัญเขากว่าเดิม สำนวนนี้ภาษาจีนอ่านว่า" 刮目相看 ( guā mù xiāng kàn ) " กวา มู่ เซียง ค่าน)  บางทีก็ว่า 刮目相观 (刮目相觀  guā mù xiāng guān ) หรือ 刮目相待 ( guā mù xiāng dài ) ที่หมายถึงมองด้วยสายตาที่ทึ่งหรือให้เกียรติเขากว่าเดิม.

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040