นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในพิธีเปิดงานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่10 ที่จัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง ของจีน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นทศวรรษแห่งทองในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียน และเสนอให้สร้างทศวรรษแห่งเพชรในช่วง 10 ปีข้างหน้าบนพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จีนต้องการเห็นความร่วมมือระหว่าง จีน-อาเซียนที่ยกระดับสูงขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน จีนเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่เศรษฐกิจอาเซียนก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนและอาเซียนมีตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรรวม 1,900 ล้านคน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก จีนและอาเซียนมีเป้าหมายรวมทั้งภารกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่คล้ายคลึงกัน หากทั้งสองฝ่ายรักษาแนวทางความร่วมมือ และขยายประโยชน์ร่วมกันต่อไปก็จะเพิ่มศักยภาพของกันและกันมากยิ่งขึ้น

นายหลี่ เค่อเฉียง ได้เสนอข้อเสนอ 5 ประการเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน คือ

ประการแรก ยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนให้สูงขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต้องลดภาษาศุลกากรให้น้อยลงอีกขั้นหนึ่ง ลดหรืองดใช้มาตรการกีดกันทางการค้ารูปแบบไม่ใช่ภาษี เจรจาการค้าภาคบริการครั้งใหม่ ส่งเสริมการเปิดเสรีด้านการลงทุนอย่างแท้จริง พยายามให้ยอดมูลค่าการค้าระหว่างกันมีถึง 1,000,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 และเพิ่มการลงทุนระหว่างกันมูลค่า 150, 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 8 ปีข้างหน้า

ประการที่ 2 เร่งส่งเสริมความร่วมมือเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านทางหลวง รถไฟ การเดินเรือ การบิน การสื่อสารโทรคมนาคม และพลังงาน นอกจากนี้ ให้สร้างช่องทางระดมเงินทุนที่เชื่อมโยงกันในภูมิภาคเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคนี้

ประการที่ 3 เสริมความร่วมมือด้านการเงิน จีนยินดีร่วมมือกับชาติอาเซียนสร้างเครือข่ายการเงินที่มั่นคง อีกทั้งเสนอให้ปรับปรุงระบบเตือนภัยทางการเงินและกลไกช่วยเหลือทางการเงินให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ประการที่ 4 ให้กระชับความร่วมมือทางทะเล โดยจีนริเริ่มให้สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางมหาสมุทร จีน-อาเซียน

ประการที่ 5 เพิ่มการแลกเปลี่ยนบุคลากรและวัฒนธรรม จีนเสนอให้กำหนดปี 2014 เป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนฉันมิตร จีน-อาเซียน