คนจีนแบ่งฤดูกาลเป็น 24 เจี๋ยชี่ตามแบบปฏิทินจีน ที่สัมพันธ์กับการเพาะปลูกมาแต่โบราณ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นฤดูกาลลี่ตง ซึ่งมีความหมายว่า เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว และสอนให้ผู้คนต่างเก็บพลังเพื่อรักษาสุขภาพในฤดูหนาว ในวันลี่ตง ตามประเพณีดั้งเดิม ชาวจีนทางภาคเหนือจะกินเกี๊ยวหรือ "เจี่ยวจื่อ" เพราะพ้องเสียงกับคำว่า "เจียวจื่อ" นั้นมีความหมายว่า การเปลี่ยนฤดูกาล ส่วนชาวจีนภาคใต้จะกินเนื้อชนิดต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังกับร่างกาย
ในฤดูหนาว อากาศหนาวจัด ทำให้อยากกินอะไรร้อนๆ เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่อาหารที่เสริฟบนโต๊ะส่วนใหญ่มักจะเย็นเร็ว กินแล้วไม่ค่อยสบายตัว เพราะฉะนั้น ในฤดูนี้ สุกี้ (ภาษาจีนว่า หั่วกัว) กลายเป็นจานโปรดของคนจีนหลายๆ คน
ปัจจุบัน จีนมีร้านสุกี้ยี่ห้อต่างๆ นับไม่ถ้วน และมีหลากหลายประเภทด้วย เช่น สุกี้ที่ลวกเนื้อต่างๆ สุกี้เสฉวนที่มีรสชาติเผ็ดร้อน สุกี้ช็อกโกแลตในร้านไอติม สุกี้ชีสจากสวิตเซอร์แลนด์ สุกี้เกาหลี และสุึกี้รูปแบบแปลกๆ เช่น สุกี้แบบใช้หม้อแก้ว และหม้อกระดาษ ในบทความนี้ จะพาท่านไปเที่ยวชมร้านสุกี้ชื่อดังประเภทต่างๆ ในกรุงปักกิ่งค่ะ
สุกี้เสฉวน - รสเผ็ดร้อนไล่ความหนาวออกจากร่างกาย
1. ร้านไหตี่เลา
เมื่อพูดถึงร้านสุกี้แห่งนี้ คนจีนจะรู้จักดีเกือบทุกคนเลย แต่ถ้าถามว่าร้านนี้เป็นสุกี้แบบไหน ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะนึกไม่ค่อยออก เพราะร้านนี้มีชื่อเสียงดังมากในด้านการบริการอย่างดีมากกว่า ไปกินข้าวที่ร้านไหตี่เลาจะทำให้รู้สึกว่า ลูกค้าเป็นพระเจ้าจริงๆ ปัจจุบัน ในกรุงปักกิ่งมีสาขายองร้านไหตี่เลาประมาณ 40 แห่ง ฮิตกันทุกแห่งเลย จนต้องรอคิวทุกเวลา
แต่การรอคิวที่นี่จะไม่เหงาและไม่ทุกข์เลย เพราะพนักงานจะเอาแตงโม ส้ม แอปเปิ้ล ถั่วลิสง หรือของกินเล่นจุกจิกอื่นๆ มาบริการ แถมยังมีน้ำเต้าหู้ น้ำมะนาว และเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมฆ่าเวลาระหว่างรอด้วย สำหรับผู้หญิงมีบริการทาเล็บ ส่วนผู้ชายจะมีบริการเช็ดรองเท้า และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นบริการฟรีทั้งหมด เป็นไงบ้าง น่าสนใจไหมคะ
สำหรับอาหารที่นี่ รสชาติใช้ได้เลย อาหารต่างๆ สั่งเป็นแบบครึ่งจานได้ด้วย สำหรับน้ำจิ้มก็ต่างกับร้านสุกี้ทั่วไป โดยทางร้านจะเตรียมเครื่องเทศไว้สิบกว่าชนิดเพื่อให้ลูกค้าผสมเอง นอกจากนี้ ทางร้านยังจัดเตรียมผลไม้ ข้าวต้มแบบบริการตัวเองไว้ และฟรีด้วย ถ้าเป็นลูกค้าผู้หญิงที่ไว้ผมยาว ทางร้านจะให้ยางผูกผม ส่วนคนที่เอาโทรศัพท์มือถือด้วย ทางร้านจะให้ถุงพลาสติกเล็็กๆ สำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้มือถือโดนน้ำ สำหรับคนที่มาฉลองวันเกิด จะมีพนักงานมาแสดง "รำดึงบะหมี่ (ราเมน)" เพื่อทำเป็นบะหมี่อายุยืน (หมี่ซั่ว) สนุกดีใช่ไหมคะ
2. ร้านซื่อชวนเหริน
ร้านซื่อชวนเหรินเป็นร้านสุกี้ค่อนข้างใหม่ ชื่อของร้านออกเสียงเดียวกันกับคำว่า "ซื่อชวนเหริน" มีความหมายว่า คนเสฉวน จากนี้รู้ว่า ร้านสุกี้แห่งนี้ ขายสุกี้เสฉวนแบบต้นตำรับ ที่ปักกิ่งมีหลายสาขา แต่ละสาขามีพื้นที่กว้าง และตกแต่งอย่างทันสมัย หม้อสุกี้เสฉวนจะต่างกับหม้อสุกี้ธรรมดา โดยมีรูปทรงแบบมีหม้อเล็กในหม้อใหญ่ หม้อเล็กเป็นซุปจืด ส่วนหม้อใหญ่เป็นซุปเผ็ด ไม่ว่าเป็นน้ำซุปแบบไหน ทางร้านล้วนจะเลือกเครื่องปรุงที่มีคุณภาพดีทั้งหมด ส่วนน้ำมันที่ใช้ก็เป็นน้ำมันพืชธรรมชาติ น้ำซุปเห็ดของที่นี่นั้นมีชื่อเหมือนกัน
สำหรับจานยอดนิยมที่สุดในร้านนี้คือ เนื้อวัว เลือดเป็ด กระเพาะวัว และผัก "ก้งช่าย" (ผักชนิดหนึ่งที่ปลูกในมณฑลอันฮุยเป็นหลัก) พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นคนเสฉวนแท้ๆ และเสริฟดีอีกด้วย
สุกี้เนื้อแพะ - ให้พลังกับร่างกาย ทำให้อุ่นขึ้นในฤดูหนาว
1. ร้านเสี่ยวเฝยหยาง
ร้านนี้เป็นร้านสุกี้แบบมองโกล ชื่อของร้านมีความหมายว่า แพะอ้วนตัวน้อย มีทั้งหมด 24 สาขาในกรุงปักกิ่ง
ตามประเพณีดั้งเดิม เวลากินสุกี้ต้องมีน้ำจิ้ม แ ต่สุกี้ในร้านนี้ไม่ต้องกินกับน้ำจิ้มเลย เพราะซุปมีเครื่องเทศและสมุนไพรสูตรลับหลายสิบชนิดทีเดียว กินสุกี้ที่ร้านนี้ห้ามพลาดเนื้อแพะเด็ดขาด เพราะเนื้อแพะในร้านนี้มาจากแพะมองโกลอายุ 6 เดือน ไร้สารพิษ และเนื้อนิ่มมาก ขนาดว่า ต้มในหม้อสุกี้เป็นเวลานานก็ยังนิ่มเหมือนเดิม
สำหรับคนที่ชอบกินสุกี้ อยากจะกินเนื้อแพะลวกในฤดูร้อน แต่กลัวร้อนใน ทางร้านยังมีซุปแบบแก้ร้อนในให้ด้วย โดยจะใส่เก๊กฮวย มิ้นท์ และสมุนไพรอย่างอื่นลงในซุป แต่เสริฟเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น
เนื่องจากน้ำซุปของร้านเสี่ยวเฝยหยางเป็นที่นิยมอย่างมาก บริษัทเสี่ยวเฝยหยางจึงเอาเครื่องบำรุงซุปสุกี้ของตนไปขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ขายดิบขายดีเช่นกัน
2. ร้านตงหลายสุ้น
ร้านตงหลายสุ้นเป็นร้านมุสลิมเก่าแก่ของปักกิ่ง โดยสร้างขึ้นเมื่อปี 1903 และขายเนื้อแพะลวกมาเกือบร้อยปีแล้ว จึงเป็นที่รู้จักกันดีในชาวจีนท้องที่ต่างๆ และทุกเพศทุกวัย นอกจากใช้เนื้อแพะที่มีคุณภาพดีแล้ว เทคนิคการแล่เนื้อแพะของพ่อครัวร้านตงหลายสุ้นก็มีชื่อเสียงเช่นกัน ถึงจะไม่ใช้เครื่องแล่เนื้อแบบอัตโมมัติ แต่เนื้อแพะแต่ละชิ้นจะมีขนาดเท่ากัน และบางมากจนมองเห็นลวดลายบนจานได้ด้วย
ต่างจากร้านเสี่ยวเฝยหยางตรงที่ ร้านตงหลายสุ้นขึ้นชื่อเรื่องน้ำจิ้มมาก โดยจะผสมเครื่องเทศสิบกว่าชนิดในถ้วยเดียว เช่น งาบด เหล้าฮวาเตียว น้ำมันพริก น้ำมันกุ้ง ผักชี ต้นหอม เป็นต้น สัดส่วนของส่วนผสมแต่ละชนิดก็แล้วแต่ความชอบ
นอกจากนี้แล้ว ร้านตงหลายสุ้นยังมีเอกลักษณ์พิเศษอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือ ใช้หม้อไฟมองโกลที่ทำด้วยทองแดง และเตาถ่าน ถ้าอยากชิมเนื้อแพะลวกรสชาติตั้งเดิมด้วยเตาถ่าน อย่าพลาดร้านนี้นะคะ ซึ่งร้านตงหลายสุ้นมีสาขากว่า 50 แห่งในกรุงปักกิ่ง
3. ร้านสุกี้หยางฝางเสิ้งลี่
ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่อีกร้านหนึ่งของกรุงปักกิ่ง ขายสุกี้แบบดั้งเดิม และมีชื่อเสียงเหมือนกัน ปัจจุบันเปิดสาขาเกือบ 60 แห่งในปักกิ่งแล้ว ขนม "หั่วเซา" ของร้านนี้มีชื่อดังมาก ร้านนี้ใช้หม้อมองโกลแบบเตาถ่านเหมือนร้านตงหลายสุ้น และสาขาบางแห่งมีหม้อไฟทองแดงขนาดเล็กสำหรับกินคนเดียวด้วย ซึ่งลักษณะแตกต่างจากหม้อเล็กที่มีรูปทรงทันสมัยในร้านสุกี้ทั่วๆ ไป น่าสนใจทีเดียว
Ying/Ldan
