2018-04-10 18:04cri
วันที่ 10 เมษายนนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมประจำปี 2018 ฟอรั่มเอเชียโป๋เอ๋า พร้อมกล่าวปาฐกถาเรื่อง "เปิดประเทศร่วมสร้างความเจริญรุ่งเรือง ใช้ผลงานนวัตกรรมนำร่องอนาคต" ปี 2018 ในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน มีการประเมินผลงานในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาอย่างไร ขีดความสามารถในการเปิดประเทศของจีนในอนาคตสูงมากเพียงใด มาร่วมกันทบทวนใจความสำคัญในปาฐกถาของนายสี จิ้นผิง
บทกวีแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่อลังการ
เมื่อปี ค.ศ.1978 ที่ประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 นับเป็นจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร การมุมานะต่อสู้รุดหน้า และการทุ่มเทอำนวยความสะดวกทางด้านนโยบายตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ประชาชนจีนร่วมกันเขียนบทกวีแห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
จีนกลายเป็นประชาคมเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ตลาดการค้าสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และประเทศที่มีเงินตราต่างชาติสำรองไว้มากที่สุดของโลก
อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เฉลี่ยต่อปีของจีนอยู่ที่ระดับ 9.5% อัตราการขยายตัวของยอดมูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีนเฉลี่ยต่อปีคิดเป็น 14.5% ประชากรกว่า 700 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนได้สำเร็จ คิดเป็นกว่า 70% ของประชากรโลกที่พ้นจากเส้นแบ่งความยากจน และสัดส่วนของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกสูงกว่า 30%
คำชี้แนะอันล้ำค่า
แรงบันดาลใจที่มีค่าสูงสุดจากช่วง 40 ปีของการปฏิรูปและเปิดประเทศ คือ การฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองในลักษณะหนึ่งประเทศและหนึ่งชนชาติ ซึ่งจำเป็นต้องเดินหน้าอย่างถูกตรรกะตามทิศทางความก้าวหน้าของประวัติศาสตร์ และมีความคืบหน้าท่ามกลางกระแสการพัฒนาของยุคสมัย หนทางสู่ความทันสมัยใช่ว่ามีทางเดียว ประชาชนจีนมีความหาญกล้าในการก่อการปฏิวัติตัวเอง ดำเนินการปฏิรูปตัวเอง กล้าทำกล้าเสี่ยง ยอมทดลองกระทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำ การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นการปฏิวัติครั้งที่ 2 ของจีน ไม่เพียงแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงภายในประเทศเท่านั้น หากยังมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งกับทั่วโลก
คำถามจากยุคสมัย
เมื่อเผชิญกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและมีความสลับซับซ้อน สังคมของมนุษยชาติจะเดินหน้าไปทางไหน อนาคตของทวีปเอเชียจะเป็นเช่นไร เราต้องมองการณ์ไกล ไกลออกไปโดยไม่กลัวก้อนเมฆมาบดบัง รู้จักค้นพบแก่นแท้ที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ เข้าใจกฎเกณฑ์ของประวัติศาสตร์ มองเห็นสถานการณ์ใหญ่ของโลก นั่นก็คือ
โลกปัจจุบันขับเคลื่อนด้วย 3 กระแสหลัก ได้แก่ สันติภาพและความร่วมมือ การเปิดประเทศและผสมผสาน การปฏิรูปและการสร้างผลงานนวัตกรรม
มุ่งหน้าไปสู่อนาคต ทุกประเทศควรเคารพและปฏิบัติอย่างเสมอภาคซึ่งกันและกัน เจรจาหารือ และร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบ ร่วมแรงร่วมใจดำเนินความร่วมมือให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน กลมกลืนสมานฉันท์ ยอมรับซึ่งความแตกต่าง เคารพธรรมชาติ และอนุรักษ์โลกไปด้วยกัน
ยุคใหม่ ภารกิจใหม่
แต่ละยุคสมัยจะมีปัญหาของยุคนั้น คนในแต่ละยุคสมัยจึงมีภารกิจต่างกัน ประชาชนจีนมุมานะบากบั่นอย่างไม่ท้อถอย พยายามสร้างนวัตกรรมด้วยตนเอง ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ พยายามแก้ไขปัญหาทั้งจากในอดีตและปัญหาใหม่ มีความกล้าหาญในการทำลายกฎเกณฑ์และแนวคิดเก่า ดำเนินนโยบายจนถึงที่สุด ประชาชนจีนจะเร่งการสร้างนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนา กระชับความร่วมมือกับต่างประเทศและเพื่อนร่วมโลก สร้างคุณูปการมากยิ่งขึ้นเพื่อมนุษยชาติ
มาตรการใหม่ของการเปิดประเทศ
1. ลดข้อกำหนดการเข้าตลาดจีน ในด้านการธนาคาร พันธบัตร สัดส่วนทุนต่างชาติบริษัทประกันภัย และกำลังดำเนินการลดข้อกำหนดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์
2. ปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้สอดคล้องกับการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มความโปร่งใสและการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น
3. เพิ่มการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา จัดตั้งกรมสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาอีกครั้ง เพิ่มการปราบปรามการละเมิดกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม
4. ขยายการนำเข้า ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ เพิ่มการนำเข้าสินค้าคุณภาพดีที่ประชาชนต้องการ เร่งรัดการเข้าเป็นประเทศภาคีข้อตกลงการจัดซื้อของรัฐบาลขององค์การการค้าโลก
พลังพื้นฐาน
โลกในปัจจุบัน มีกระแสนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง คนจีนในสมัย 2,500 ปีก่อนเคยกล่าวว่า อะไรที่ทำเพื่อประชาชน ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับระเบียบในอดีต ถ้าอยากทำอะไรให้สมบูรณ์ ไม่ต้องทำตามหลักการเก่า การปฏิรูปและนวัตกรรมเป็นพลังขั้นพื้นฐานของมนุษยชาติในการพัฒนา ผู้ใดที่ปฏิเสธเรื่องนี้จะเป็นผู้ที่ล้าหลัง และถูกประวัติศาสตร์ทอดทิ้ง
ให้คำมั่นสัญญาอย่างเคร่งขรึมและทรงเกียรติ
แม้จีนจะพัฒนาไปถึงเพียงไรก็ตาม จะไม่มีการคุกคามต่อผู้ใด และจะไม่ล้มล้างระบบสากลของปัจจุบัน หรือสร้างอิทธิพลของตัวเอง จีนเป็นผู้ที่ร่วมการสร้างสันติภาพของโลก เป็นผู้สร้างคุณูปการแก่การพัฒนาของโลก เป็นผู้รักษาระเบียบสากลตลอดเวลา
นโยบายพื้นฐานของประเทศ
โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเป็นกระแสแห่งยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ จีนยืนหยัดนโยบายพื้นฐานของประเทศที่เปิดประเทศสู่ภายนอก ยืนหยัดการพัฒนาโดยเปิดประตูประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจจีนในช่วง 40 ปีมานี้ มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณภาพสูง และในอนาคตยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เปิดสู่ภายนอกมากยิ่งขึ้น ประตูของจีนจะไม่ปิด มีแต่จะเปิดให้กว้างขึ้น
ร่วมกันพัฒนา "1 แถบ 1 เส้นทาง"
จีนเป็นฝ่ายริเริ่ม พัฒนา "1 แถบ 1 เส้นทาง" แต่โอกาส และผลงานเป็นของโลก โดยจีนจะไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ ไม่ตั้งกลุ่มย่อยขึ้นมาเพื่อต่อต้านบุคคลกลุ่มอื่น ไม่ใช้กำลังในการบังคับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ต้องพัฒนา "1 แถบ 1 เส้นทาง" เป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่เปิดกว้างมากที่สุดสอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ