โกลบอลไทมส์รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวระหว่างการเข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทอีคอมเมิร์ซอาลีบาบาในเมืองหางโจวของจีนว่า "ขอเชิญให้มาแบ่งปันความคิดด้านนวัตกรรม ทำให้มาเลเซียได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย" ซึ่งขณะนี้บริษัทจีนกำลังฝึกอบรมบุคลากรจำนวนมากให้แก่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย "GCash" ซึ่งเป็นเเอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ และ "TnGD" เเอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ล้วนเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ทีม "แอนท์ไฟแนนเชียล(Ant Financial)" ของจีนร่วมมือกับหุ้นส่วนท้องถิ่นก่อตั้งขึ้นและให้บริการกับประชาชนท้องถิ่น ที่เมื่อเปิดเเอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ จะมีหน้าเพจและฟังก์ชั่นการใช้งานคล้ายกับอาลีเพย์ (Alipay) ของจีน เช่น การชำระเงินผ่านการสแกนรหัสคิวอาร์โค้ด การโอนเงินและชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มฟังก์ชันใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการในท้องถิ่น อย่างเช่น ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในฟิลิปปินส์ที่มีการพัฒนาอย่างดี ดังนั้น ในหน้าเพจของ "GCash" จึงมีตัวเลือกใช้บริการของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย และอีกตัวอย่างคือ ในมาเลเซีย หุ้นส่วนท้องถิ่นของ "TnG" มีความเชี่ยวชาญด้านการคมนาคมขนส่ง ดังนั้น การ์ด "TnG" จึงถูกชาวมาเลเซียเรียกว่าเป็น "บัตรการจราจรแห่งชาติ"

ตอนนี้ เเอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 9 แห่งจากอาลีเพย์ ได้เริ่มใช้งานในประเทศรายทางนโยบาย "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และการก้าวออกนอกประเทศรุ่น 3.0 ใหม่ของบริษัทจีนนี้ มีแกนหลักก็คือ การอัดฉีดพลังในแบบ "หุ้นส่วนท้องถิ่น+การส่งออกเทคโนโลยี" ค้นหาหุ้นส่วนท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันและคุ้นเคยกับสภาพท้องถิ่นเป็นอย่างดี หลังจากนั้นจึงนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดพร้อมรูปแบบธุรกิจของอาลีเพย์ ซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานมานานกว่าสิบปีในจีน มาใช้ตอบสนองความต้องการที่เหมาะสมของท้องถิ่น

Yim/Patt/Cici