ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเร็วๆ นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาชูธง “สหรัฐเป็นที่ 1” อีกครั้ง ปฏิเสธระบบการบริหารจัดการโลก ถูกผู้นำหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐ วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก

นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องผู้นำทุกประเทศและผู้แทนที่ร่วมประชุม ร่วมมือกันหาสูตรแก้ไขสำหรับประเด็นสำคัญๆ ของโลก ตามประเด็นหลักของการประชุมสมัชชาครั้งนี้ที่ว่า กระจายอำนาจผู้นำและความรับผิดชอบสู่โลก สร้างสังคมที่สันติ เสมอภาคเท่าเทียมกัน และยั่งยืน

สำหรับจีนนั้น ได้เสนอภูมิปัญญาจีนและแนวทางของจีนเกี่ยวกับการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ท่ามกลางโลกที่มีความแตกแยก ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในที่ประชุมระดับโลก ตั้งแต่การประชุมเศรษฐกิจโลกดาวอสไปจนถึงการประชุมของสหประชาชาติ และได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก

นายโรเบิร์ต คูห์น นักวิชาการที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอเมื่อสองปีก่อนว่า ข้อริเริ่ม “1 แถบ 1 เส้นทาง” ที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจีนเสนอเมื่อปี 2013 ถือเป็นครั้งแรกที่จีนมีส่วนร่วมในกิจการระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน และมีส่วนช่วยต่อการพัฒนาของโลกในภาพรวม

ช่วง 5 ปีตั้งแต่จีนเสนอข้อริเริ่ม “1 แถบ 1 เส้นทาง” เป็นต้นมา พร้อมกับการดำเนินโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประเทศและเขตปกครองต่าง ๆ จำนวนไม่น้อยเริ่มได้รับประโยชน์ที่แท้จริง

ภายใต้แรงกระตุ้นของข้อริเริ่ม “1 แถบ 1 เส้นทาง” ของจีน สหรัฐ ยุโรปก็พากันเข็นโครงการเชื่อมต่อระหว่างประเทศตามสไตล์ของแต่ละประเทศ สื่อตะวันตกระบุว่า นี่เป็นการ “เข้าร่วมประกวดกันบนเวที” อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าจีนยินดีต้อนรับ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า นี่เป็นสัญญาณที่ดีในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ และการสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดเสรี

เมื่อ 2 ปีก่อน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจีนระบุในที่ประชุม  B20 Summit ของการประชุมกลุ่มจี 20 ณ เมืองหังโจวว่า “การเปิดเสรีของจีน ต้องการการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ไม่ได้มุ่งสร้างเครือข่ายอิทธิพล หากจะต้องการสนับสนุนการพัฒนาร่วมกันของทุกประเทศ ไม่ได้หวังผลประโยชน์เฉพาะตนเอง แต่หวังการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน

ในกระแสโลกในยุคปัจจุบัน “ดอกไม้บานเองดอกเดียว ไม่ได้หมายความว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว จำเป็นต้องบานโดยพร้อมเพรียงกันอย่างเต็มสวน ถึงจะแสดงว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว” จีนหลังการปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นเวลา 40 ปี จีนยังคงยึดการลงลึกปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ จะนำมาซึ่งโอกาสแก่โลกมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

(Bo/LING/CAI)