2018-11-06 22:20CRI
ทุกปลายปีและต้นปี ประเทศและเขตแคว้นต่าง ๆ ทั่วโลกจะได้รับ “คะแนนสอบระหว่างประเทศ” โดยองค์กรระหว่างประเทศ สถาบันวิชาการ สื่อมวลชน คลังสมอง และองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ โดยจะประกาศรายชื่อการจัดอันดับดัชนีทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การศึกษา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม สุขภาพ นวัตกรรม และศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งในบรรดา “ผลคะแนน” เหล่านี้ รายชื่อการจัดอันดับสภาพแวดล้อมด้านการประกอบธุรกิจประจำปีของธนาคารโลกนั้นเป็นที่สะดุดตามากที่สุด
“รายงานสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจประจำปี 2019: ฝึกอบรมเพื่อการปฏิรูป” ฉบับล่าสุดของธนาคารโลกระบุว่า ในบรรดาองค์กรเศรษฐกิจทั้งหมด 190 แห่ง ที่มีส่วนร่วมการ “ประเมิน” ระหว่างประเทศครั้งนี้ จีนได้อันดับที่ 78 ติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 ปี แต่ในปีนี้จีนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 32 เพิ่มขึ้น 46 อันดับ และกลายเป็นประเทศที่พัฒนาเร็วที่สุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
นางริตา รามัลโฮ ผู้บริหารระดับสูงสำนักงานดัชนีโลกของธนาคารโลก ระบุว่า “เมื่อเทียบในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา จีนได้สร้างสถิติด้านจำนวนครั้งของการปฏิรูปปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยใน 1 ปีที่ผ่านมา จีนได้มีปฏิบัติการขนาดใหญ่ 7 ครั้ง”
การปฏิรูปดังกล่าวรวมไปถึง 1) การสร้างระบบจดทะเบียนบนออนไลน์ และระบบการลงทะเบียนประกันสังคมออนไลน์ ใช้เวลาดำเนินการเฉลี่ย 9 วัน ซึ่งการปฏิรูปนี้ ทำให้อันดับของจีนสูงขึ้น 65 อันดับ นอกจากนี้ กรุงปักกิ่งยังเป็นหนึ่งในสองเมืองที่ให้บริการจดทะเบียนประกอบธุรกิจและประกันสังคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในโลก 2)จีนเสนอบริการขอติดตั้งไฟฟ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และลดระยะเวลาดำเนินการลงจาก 143 วันมาเป็น 34 วัน ซึ่งการปฏิรูปนี้ทำให้จีนกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่ 84
สิ่งที่ต้องกล่าวถึง คือ รายงานของธนาคารโลกระบุว่า ประเทศมอริเชียส อยู่อันดับที่ 20 และรวันดา อยู่อันดับที่ 29 ซึ่งอยู่แถวหน้าของจีนและญี่ปุ่น ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเที่ยงธรรมและยุติธรรมในการประเมินของธนาคารโลก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเทศขนาดใหญ่หรือเล็ก มาตรการและประสิทธิผลด้านการปฏิรูปเป็นสิ่งที่ต้องมาก่อน
Tim/Ldan/Zheng