เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติของจีนครั้งแรกสิ้นสุดลงที่นครเซี่ยงไฮ้ ตลอดระยะเวลา 6 วันนี้ 172 ประเทศและเขตแคว้น กว่า 3,600 บริษัทรวมออกบูธและมีนักธุรกิจทั้งภายในและนอกประเทศกว่า 400,000 คนเข้าร่วมงานอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ สร้างยอดลงนามสัญญาทะลุ 57,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นผลสำเร็จที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ง่ายในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและการค้าของโลกที่ผ่านมา ซึ่งนักธุรกิจทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อยากกล่าวคำลา” และ “ปีหน้าจะมาอีก”

เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศแผนจัดงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติขึ้น ระหว่างจัดประชุมฟอรั่มความร่วมมือระหว่างประเทศ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นับเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญของจีนในการมุ่งส่งเสริมการเปิดประเทศให้ยกระดับสูงยิ่งขึ้น และเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ประเทศจีนเปิดตลาดสู่ทั่วโลกด้วย 

จากผลสำเร็จที่ได้มาของงาน CIIE ครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนั้น ถูกต้องตามกระแสการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก  เพราะเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์เป็นแนวโน้มการพัฒนาทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจฝืนได้ การเปิดกว้างสู่ภายนอกและความร่วมมือเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญ ในการส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ทั่วโลกได้รับประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว 3 ประการ ดังนี้

1) งาน CIIE ช่วยส่งเสริมการเปิดประเทศ จะช่วยขับเคลื่อนการเปิดเสรีทางการค้าและการเติบโตเศรษฐกิจโลก

2) งาน CIIE ก่อให้เกิดการระดมความคิด เพื่อให้ทั่วโลกสามารถจับมือกันแก้ไขปัญหาใหญ่ๆทางเศรษฐกิจและการค้าที่ไปในทิศทางเดียวกัน

3) งาน CIIE แสดงให้เห็นถึงแนวคิด “ร่วมปรึกษาหารือ รวมพลังสร้างสรรค์ และร่วมแบ่งปันกัน” ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แห่งการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

ตามแผนการที่กำหนดไว้ งาน CIIE จะมีการจัดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นประจำทุกปี ขณะนี้ มีบริษัทกว่า 200 แห่งได้ลงนามในข้อตกลงร่วมงาน CIIE ครั้งที่สองแล้ว แสดงให้เห็นว่า งาน CIIE ในฐานะเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระหว่างประเทศ ที่จีนเสนอขึ้นเพื่อส่งเสริมกระแสโลกาภิวัตน์นั้น เป็นที่ยอมรับและเห็นชอบของทั่วโลก

(Yim/Zi/Zheng)