ตัวอย่างของโลก – จีนฟื้นฟูปรับปรุงทะเลทรายคู่ปู้ฉีให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเขียว (2)

2018-12-14 12:43CRI

图片默认标题_fororder_20181213-kbq-1

เมื่อปีนขึ้นหอคอยเตือนภัยป้องกันไฟไหม้ของทางหลวงผ่านทะเลทรายคู่ปู้ฉีสายแรกในเขตห่างจิ่นฉี เมืองเอ่อร์ตัวซือ ทางหลวงสายนี้ยาว 115 กิโลเมตร ปูขึ้นด้วยยางมะตอยสีดำ ดูเหมือนดาบแหลมคมที่กำลังยื่นเข้าสู่ท้องทะเลทราย พื้นที่สองข้างทางหลวงต้องปลูกพืชที่ขึ้นตามทะเลทราย เพื่อรักษาทางหลวงไม่ให้ถูกทรายกลบ

นายไป๋ ฟู่หัว อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคมนาคมเขตห่างจิ่นฉี ปัจจุบันเกษียญอายุแล้ว เคยเป็นผู้รับผิดชอบสร้างทางหลวงดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มงานก่อสร้าง เขาต้องนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคเดินทางเข้าทะเลทรายเพื่อสำรวจออกแบบทางหลวงทะเลทราย เขากล่าวว่า การทำสำรวจ 1 เดือน กาน้ำหายไปหลายสิบอัน สาเหตุเพราะเมื่อกาน้ำวางตามเส้นทางที่เพิ่งได้สำรวจมา พอเดินไปข้างหน้าประมาณ 100 เมตร เท่านั้น กาน้ำก็ถูกทรายถมทับข้างล่าง  

ระหว่างปี 1997 – 1999 ประชาชนหางจิ่นฉี จำนวนกว่า 130,000 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวนหลายล้านต้นบนพื้นที่ทะเลทรายกว่า 20 ล้านเฮกต้าร์ ริมสองข้างทางหลวงสายนี้ ถ้าหากไม่มีพืชไม้เหล่านี้ เมื่อมีลมแรงพัดมา ทางหลวงจะถูกกลืนไปในทันที

จนถึงปัจจุบัน ประชาชนเอ่อร์ตัวซือ ได้สร้างแถบป่าไม้บริเวณโดยรอบทางตอนใต้และทางตอนเหนือของทะเลทรายคู่ปู้ฉี  ซึ่งเป็นระบบป้องกันลมและทราย ระยะยาวกว่า 200 กิโลเมตร จากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ความกว้าง 3 – 5 กิโลเมตรจากทิศใต้ไปทิศเหนือ  และยังสร้างทางหลวงผ่าทะเลทรายหลายเส้นทาง เพื่อแบ่งแยกทะเลทรายเป็นหลายเขต และสร้างกำแพงต้นไม้หรือที่เรียกว่าระบบนิเวศสีเขียวหลายชั้น จึงสามารถที่จะควบคุมการขยายตัวของทะเลทรายอย่างมีประสิทธิผล

图片默认标题_fororder_20181213-kbq-2

ขณะที่ส่งเสริมให้ประชาชนท้องถิ่นปลูกต้นไม้ต้นหญ้าในทะเลทราย ต่อสู้กับทะเลทรายเพื่อความหวังชีวิตใหม่ รัฐบาลท้องถิ่นยังระดมให้วิสาหกิจและบริษัทเข้าร่วมในโครงการฟื้นฟูปรับปรุงระบบนิเวศ ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่อช่วยเหลือและชี้นำประชาชนท้องถิ่นปลูกต้นไม้อย่างให้ได้ผล

สถิติปรากฏว่า ระหว่างการฟื้นฟูปรับปรุงระบบนิเวศของทะเลทรายคู่ปู้ฉี มีบริษัทวิสาหกิจกว่า 80 แห่งได้เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้เพื่อควบคุมทะเลทรายและพัฒนาเศรษฐกิจทะเลทราย ในจำนวนนี้ บริษัทที่ขึ้นชื่อได้แก่กลุ่มบริษัทอี้ลี่ กลุ่มบริษัทอีไท่และกลุ่มบริษัทตงต๋า โครงการนี้มีความสำคัญมากที่ทำให้การควบคุมทะเลทรายคู่ปู้ฉีประสบความสำเร็จ

นายกาว เหมาหู่วัย 59 ปี เป็นชาวหมู่บ้านห่างจิ่นเน่าเอ่อ ตำบลกุ้ยถ่าลา ที่อยู่ภายในบริเวณทะเลทรายคู่ปู้ฉี แต่ก่อนเนื่องจากยากจนมาก เขามีอีกชื่อหนึ่งว่า “กาวขอทาน” ปี 2004 กลุ่มบริษัทอี้ลี่มีการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้ชาวนาท้องถิ่นที่มีความสามารถ เป็นผู้รับผิดชอบจัดทีมแรงงานเพื่อเข้าร่วมโครงการควบคุมทะเลทราย “กาวขอทาน” ได้เซ็นสัญญากับกลุ่มอี้ลี่ และนำพี่น้องหลายคนในหมู่บ้านจัดทีมแรงงาน เหมาที่ดินปลูกต้นไม้ตั้งแต่หลายเฮกต้าร์ จนถึงหลายสิบเฮกต้าร์ หลายร้อยเฮกต้าร์ จนถึงปีนี้ “กาวขอทาน” และทีมงามของเขาได้เหมาปลูกต้นไม้รวมประมาณ 10,000 เฮกต้าร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเงินทุนช่วยเหลือจากกลุ่มบริษัทอี้ลี่ นาย“กาวขอทาน”กลายเป็นคนที่มีรายได้เกินล้านหยวนในหมู่บ้าน และกลายเป็นบุคคลที่ขึ้นชื่อในเขตนี้ เขากล่าวว่า หลายปีนี้ ต้นไม้มากขึ้น อากาศที่เป็นพายุทรายลดน้อยลง ถ้าไม่มีการควบคุมทะเลทราย ก็ไม่มีชีวิตที่ดีงาม

图片默认标题_fororder_20181213-kbq-3

ปัจจุบันที่เขตทะเลทรายคู่ปู้ฉี มีทีมแรงงงานอี้ลี่ลักษณะดังกล่าวกว่า 200 ทีม สมาชิกทั้งหมดประมาณ 6,000 คน พวกเขามีรายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000 หยวนต่อคนต่อปี

ที่เมืองน่าฉวี่เขตปกครองตนเองทิเบต ที่ห่างไกลจากทะเลทรายคู้ฉี แต่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ ขาดแคลนต้นไม้ เมืองนี้เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 4,500 เมตร อากาศหนาวมาก มีออกซิเจนน้อย แต่ก่อนไม่สามารถปลูกต้นไม้สักต้น เมื่อปลูกต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ถึงฤดูหนาวก็จะหนาวตาย

เดือนพฤศจิกายนปี 2016 กลุ่มบริษัทอี้ลี่รับเหมาโครงการเทคโนโลยีด้านการปลูกต้นไม้เมืองน่าฉวี ปี 2017 ได้ปลูกต้นไม้ประมาณ 70,000 ต้น จนถึงปีนี้มีกว่า 50,000 ต้นโตขึ้น เมืองน่าฉวี่บนที่ราบสูงก็มีป่าไม้แล้ว

ปัจจุบัน เทคโนโลยีและประสบการณ์การควบคุมทะเลทรายคู่ปู้ฉี ถูกนำไปใช้ในอำเภอเมืองกว่า 200 แห่งของ 20 กว่ามณฑล ที่กระจายตามเขตทะเลทรายต่างๆ และปลูกต้นไม้ที่สามารถโตขึ้นกว่า 100,000 เฮกต้าร์  

图片默认标题_fororder_20181213-kbq-4

การใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละของประชาชนที่อาศัยตามเขตบริเวณโดยรอบของทะเลทรายคู่ปู้ฉี ได้เปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายกว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่สีเขียวกว่า 3,200 ตารางกิโลเมตร อัตราพื้นที่ครอบคลุมด้วยป่าไม้และพืชไม้ ต่างเพิ่มขึ้นจาก 0.8% และ 16.2% ของปี 2002 มาเป็น15.7% และ 53% ของปัจจุบัน จำนวนสิ่งมีชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก สภาพเลวร้ายทางนิเวศได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด

ผลการสำรวจของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การป่าไม้จีนแสดงให้เห็นว่า พื้นที่ทะเลทรายของเขตคู่ปู้ฉีลดน้อยลงจาก 9,207 ตารางกิโลเมตรในปี 1986 มาเป็น 4,620 ตารางกิโลเมตรในปี 2015 ซึ่งลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่เขตหางจิ่นเน่าเอ่อ ซึ่งเป็นเขตที่สภาพนิเวศค่อนข้างร้ายแรง หลังจากการเริ่มต้นโครงการฟื้นฟูปรับปรุงทะเลทรายคู่ปู้ฉีแล้ว ระหว่างปี 1988 – 2016 มีการเกิดสภาพอากาศพายุทราย 50 ครั้งต่อปีลดลงเหลือ 1 ครั้งต่อปี สิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นจากประมาณ 10 ชนิดมาเป็นประมาณ 530 ชนิด สัตว์และพืชที่สูญหายไปเป็นเวลานานจำนวนกว่า 100 ชนิด อาทิ ห่านฟ้า กระต่ายและต้นหูหยางได้กลับมาสู่พื้นดินที่นี่อีกครั้ง

 ตั้งแต่ปี 1988 รัฐบาลและประชาชนท้องถิ่นร่วมมือกับบริษัทและวิสาหกิจทั้งรัฐและภาคเอกชน ในการป้องกันและควบคุมทะเลทราย  เวลาผ่านไป 30 ปี ปัจจุบัน พื้นที่ 1 ใน 3 ของทะเลทรายคู่ปู้ฉีกลายเป็นพื้นที่สีเขียวชุ่มชื่น สำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติประกาศตัวเลขแสดงให้เห็นว่า โครงการฟื้นฟูปรับปรุงระบบนิเวศทะเลทรายคู่ปู้ฉีของจีน สร้างรายได้ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับประชาชนท้องถิ่นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา  

และทุกวันนี้ ชาวบ้านท้องถิ่นสามารถเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะตามทุ่งหญ้าที่ปลูกขึ้นมาใหม่ ทะเลทรายคู่ปู้ฉีมีชื่อเสียงโด่งดังในจีนและทั่วโลก นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมการเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ จึงต้องสร้างโรงแรมดีๆ เพื่อต้อนรับแขกที่มาชมวิว และนักท่องเที่ยวที่มาผจญภัย   เด็กๆ ก็ชอบการกระโดดลงสระว่ายน้ำท่ามกลางทะเลทราย

图片默认标题_fororder_20181213-kbq-5

การขยายของพื้นที่ทะเลทรายถูกเรียกว่าเป็น “โรคมะเร็งของลูกโลก” องค์การกติกาสัญญาการป้องกันทะเลทรายสหประชาชาติคาดว่า จนถึงปี 2020 ทั่วโลกจะมีประชากรกว่า 50 ล้านคนต้องอพยพย้ายฐานเนื่องจากพื้นที่อาศัยกลายเป็นทะเลทราย แต่รูปแบบการควบคุมทะเลทรายคู่ปู้ฉีของจีน ถือเป็นยารักษาโรคที่มีประสิทธิผล

ปี 2013 สหประชาชาติหรือยูเอ็นมอบรางวัล “ผู้นำควบคุมป้องกันทะเลทรายทั่วโลก” ให้กับนายหวัง เหวินเปียว ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทอี้ลี่ ที่เป็นผู้นำในกระบวนการบำบัดควบคุมทะเลทรายคู่ปู้ฉี

ปี 2014 สำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติประกาศว่า เขตฟื้นฟูปรับปรุงระบบนิเวศทะเลทรายคู่ปู้ฉีเป็น “เขตสาธิตเศรษฐกิจทางนิเวศทะเลทรายทั่วโลก”

ปี 2015 ผู้แทนสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมยูเอ็นประกาศในการประชุมสภาพอากาศกรุงปารีสว่า  “รูปแบบคู่ปู้ฉี”เป็นวิถีทางที่ดีในการป้องกันทะเลทราย และสร้างความผาสุกให้กับชาวโลก

ปี 2017 การประชุมสมัชชาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติครั้งที่ 3 มอบรางวัล “ผลสำเร็จตลอดชีพผู้พิทักษ์โลก” แก่นายหวัง เหวินเปียว

เดือนเมษายนปี 2018 จีนได้รับตำแหน่งประธานของกติกาสัญญาว่าด้วยการป้องกันและควบคุมทะเลทรายของสหประชาชาติเป็นครั้งแรก

(Bo/Lin)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)