ระหว่างวันที่ 28-29 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการจัดประชุมว่าด้วยงานชนบทส่วนกลาง (The Central Rural Work Conference) ที่กรุงปักกิ่ง ที่ประชุมได้สรุปและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพื้นที่ต่างๆ ในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบท (the rural revitalization strategy) หารือแนวทางการปฏิบัติงานสำคัญๆ ด้าน “ชนบท การเกษตร และเกษตรกร” ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาสองปี คือ ปีหน้าและปีถัดไป และวางแผนงานภาคการเกษตรและพื้นที่ชนบทปี 2019

โดยนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน ได้ให้แนวทางสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินงาน “ชนบท การเกษตร และเกษตรกร” โดยย้ำว่า ปี 2018 การพัฒนาภาคการเกษตรและพื้นที่ชนบทได้ประสบความสำเร็จ เก็บเกี่ยวธัญญาหารอุดมสมบูรณ์อีกปีหนึ่ง การสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบทเริ่มต้นด้วยดี สำหรับปี 2019 เป็นปีสำคัญในการบรรลุ “เป้าหมายในรอบร้อยปี” เป้าหมายแรก ซึ่งก็คือ การสร้างสังคมที่มีกินมีใช้ทุกด้าน จึงควรดำเนินการผลิตธัญญาหารอย่างต่อเนื่อง ลงลึกการปฏิรูปจากแง่อุปทานของภาคการเกษตร ทุ่มแรงงานเพื่อชนะสงคราม ต่อต้านความยากจน จัดระเบียบสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชนบท เดินหน้าปฏิรูปชนบทรอบใหม่ ให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายมีความรู้สึกว่าได้มีส่วน (have a sense of gain) มีความรู้สึกว่ามีความสุข และมีความรู้สึกว่ามีความปลอดภัยมากขึ้น ย่างก้าวใหม่ในกระบวนการสร้างความทันสมัยของภาคการเกษตรและชนบท

ด้านนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีระบุว่า การดำเนินงาน “ชนบท การเกษตร และเกษตรกร” ของปีหน้ามีความสำคัญต่อสถานการณ์โดยรวมในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ควรลงลึกการปฏิรูปจากแง่อุปทานของภาคการเกษตร เพิ่มขีดความสามารถการผลิตธัญญาหารและปรับพื้นฐานภาคการเกษตรให้แข็งแกร่งขึ้น ปรับโครงสร้างภาคการเกษตรให้ทันสมัยโดยเน้นส่งเสริมการเกษตรที่ได้คุณภาพ มีเอกลักษณ์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้ากิจการต่างๆ ในพื้นที่ชนบท พัฒนาแบบหลอมรวมและควรเร่งส่งเสริมแรงขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาชนบทให้เร็วขึ้น สนับสนุนบุคลากรสาขาต่างๆ กลับไปสร้างสรรค์ธุรกิจที่ภูมิลำเนาเดิม เพิ่มช่องทางใหม่ในการหางานทำในพื้นที่ชนบท และการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรมากขึ้น ทั้งนี้ การส่งเสริม “ชนบท การเกษตร และเกษตรกร” ให้มีแนวโน้มที่ดีอย่างยั่งยืน จะเป็นเสาค้ำจุนเศรษฐกิจและสังคมให้พัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

(BO/LING/CAI)