2019-01-10 12:20CRI
ปี 2019 นี้ เป็นปีที่ตรงกับปี 70 การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสำหรับชาวจีน เราย่อมไม่ลืมบุคคลสำคัญหลายคนที่มีบทบาทต่อประเทศจีน เช่น นายเหมา เจ๋อตง อดีตประธานาธิบดีจีน นายโจว เอินหลัย อดีตนายกรัฐมนตรีจีน และผู้นำอื่นๆอีกหลายคน ปีนี้ จะแนะนำถึงบุคคลสำคัญเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของจีนให้กับท่านผู้ฟัง
นายเหมา เจ๋อตง หรือที่นิยมเรียกว่า ท่านประธานเหมา เป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และทำให้จีนเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบคอมมิวนิสต์มาจนถึงปัจจุบัน ท่านประธานเหมา เจ๋อ ตง เกิดวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2436 ในครอบครัวชาวนา อาศัยอยู่ในเขตชนบทชานเมือเสาซาน มณฑลหูหนาน อายุ 8 ขวบ เข้าโรงเรียนประถมในหมู่บ้าน ร่ำเรียนคำสอนของลัทธิขงจื้อ ปลูกฝังความคิดตามจารีตโบราณ ต่อมาถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกับหญิงสาวที่อายุมากกว่า ด้วยวัยเยาว์ทำให้ไม่ประสากับชีวิตครอบครัว อีกทั้งต้องการก้าวสู่โลกกว้างมากกว่ามีชีวิตปลูกพืช เลี้ยงสัตว์อยู่กับบ้านไปวันๆ ตัดสินใจขัดใจพ่อแล้วเดินทางออกจากบ้านเกิด เข้าตัวอำเภอฉางซา เรียนหนังสือในโรงเรียนตามหลักสูตรรัฐบาล เป็นเด็กโข่งเรียนร่วมชั้นกับเด็กเล็กๆ ต่อมาสอบเข้าเรียนต่อวิทยาลัยครูหูหนาน จากนั้นมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง เรียนไปทำงานหน้าที่ผู้ช่วยบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยไปด้วย และห้องสมุดนั่นเองที่เป็นคลังความรู้ให้สะสมภูมิปัญญา ให้แตกฉานทางอักษรศาสตร์อย่างยอดเยี่ยม ว่ากันว่าความรู้ที่ได้จากห้องสมุดมหาวิทยาลัยปักกิ่งคือต้นทุนที่ทำให้เขาปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีนได้สำเร็จ
เหมา เจ๋อตงที่อยู่ในวัยรุ่น ได้ทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนหนังสืออย่างจริงจัง เวลาว่างเขาเขียนบทความลงหนังสือของวิทยาลัยครู ใช้นามแฝง "เอ้อสือปาฮั่วเซิง" หรือ "นายยี่สิบแปดขีด" ตามชื่อของเขาที่เมื่อเขียนเป็นภาษาจีนแบบตัวเต็มรุ่นเก่า จะมีทั้งหมด 28 ขีด งานเขียนส่วนใหญ่ของเหมาแสดงทัศนะวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของราชสำนักชิงซึ่งเป็นชาวแมนจู
นักศึกษาหนุ่มหัวก้าวหน้าจึงเป็นที่จับตาของสายลับรัฐบาล แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะที่สุดเหมารวมพลคนใจเดียวกัน ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในพ.ศ. 2464 และปีเดียวกัน เขาเป็นแกนนำหยุดงานประท้วงของคนงานเหมืองแร่ที่อันหยวน เขียนหนังสือ "พลังปฏิวัติเบ่งบานออกมาจากปากกระบอกปืน" แล้วก่อตั้งกองทัพแดงกรรมกรและชาวนา ตามด้วยกองทัพปลดแอกประชาชน ปฏิบัติการ "ป่าล้อมเมือง" จนมีชัยเหนือเจียง ไค เช็ก ผู้นำก๊กมิ่นตั๋งในสมัยเดียวกัน ส่วนเหมา เจ๋อ ตง กุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สถาปนา "สาธารณรัฐประชาชนจีน" ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐจนถึงพ.ศ. 2512
เหมา เจ๋อตง มีประชาชนสนับสนุนเขามากโดยเฉพาะ ชาวนา ชาวไร่และคนจน จึงได้จัดเป็นกองกำลังขึ้น โดยมีโซเวียต อดีตรัสเซียสนับสนุน เพื่อปฏิวัติจีนให้เป็นคอมมิวนิสต์ แต่อีกฝ่ายหนึ่งของจีนที่นำโดยเจียงไคเช็ก ซึ่งมีกองทัพอยู่ในมือ สามารถเล่นงานเหมาได้ง่าย แต่ปัญหาหลักคือ กองทัพญี่ปุ่น ที่รุกคืบมายึดจีน โดยเฉพาะในยุทธการนานกิงมีชาวจีนล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่เจียงไคเช็ก เห็นว่า คอมมิวนิสต์มีอันตรายกว่านั้นจึงส่งทัพหวังโจมตีกองทัพของเหมา ต่อมาในปีค.ศ. 1937-1945 กองทัพเหมาสามารถต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ด้วยยุทธวิธี “สงครามยืดเยื้อ” จนได้รับชัยชนะ (ซึ่งในยุคนั้นอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี) ในปี 1943 เหมาได้เป็นประธานคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์
ปี 1946 เจียง ไคเช็ค ส่งทัพมาโจมตีกองทัพแดง แต่เหมา เจ๋อตงก็สามารถนำประชาชน ชนะทหารของเจียงได้ ถึง 3 ครั้งใหญ่ๆ และนำทัพประชาชน เข้า คุมอำนาจรัฐบาล เจียง ไคเช็คจึงจำเป็นต้องหนีพร้อมกับคนในรัฐบาลหลายๆคนไปเกาะไต้หวัน
ประธานเหมา ประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง ใช้สัญลักษณ์ค้อนเคียวเป็นสัญลักษณ์พรรค หลังจากที่ผ่านพ้นภาวะสงครามและการต่อต้านจากภายใน ภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตง ที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัด ในปีแรกของการบริหารประเทศ เหมาเน้นการเพิ่มความชำนาญและประสิทธิภาพในการปฏิรูปทางสังคมและเศรษฐกิจ และได้ให้ประชาชนทุกชนชั้นเข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจนี้ ผลตอบรับจึงเป็นที่ประทับใจและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง
นายเหมา เจ๋อตง ผู้นำประชาชนจีน ผู้ปฏิบัติตามลัทธิมาก์ซ ผู้ปฏิวัติ นักยุทธศาสตร์และนักทฤษฏีที่ยิ่งใหญ่ ผู้ก่อตั้งและผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองกำลังปลดเอกประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาชนจีน นักกวี และนักเขียนพู่กันจีน ถึงแก่อสัญกรรมลงในเวลา 5 นาฬิกาในช่วง บ่ายวันที่ 9 กันยายน 1976 ที่กรุงปักกิ่งด้วยอาการหัวใจวาย รวมอายุ 83 ปี
เนื่องจากท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีจีนตั้งแต่ปี 1949 ถึง 1976 และมีตำแหน่งเป็นประธานในหลายๆ หน่วยงาน ฉะนั้น ชาวจีนจึงยกย่องท่านและทั่วโลกให้ความเคารพในชื่อว่า “ท่านประธานเหมา” ท่านประธานเหมานับเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญแห่งประวัติศาสตร์โลกปัจจุบัน นิตยสาร “ไทม์”มีการประเมินผลและจัดให้ท่านเป็นหนึ่งในร้อยบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20
Bo/Ping/Ping