2019-02-08 18:17CRI
เวลาอยู่กับเด็ก ๆ นายสี จิ้นผิง มักจะทำตัวเป็น “เพื่อนตัวใหญ่” ของเด็ก ๆ ห่วงใยการเติบโต และการได้รับการศึกษาของพวกเขาอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความหวังของเขาต่อเด็กและเยาวชนในโอกาสต่าง ๆ อยู่เสมอ เมื่อนายสี จิ้นผิง กลับไปยังโรงเรียนที่เขาเคยศึกษา เขาได้กล่าวว่า “อยู่ที่นี่ ไม่มีผู้นำแล้ว มีแต่นักเรียนและลูกศิษย์” ความเคารพนับถือ ความขอบคุณ ความหวัง การสนับสนุนและการให้กำลังใจของนายสี จิ้นผิง ที่มีต่อครูบาอาจารย์ เป็นแรงขับดันอันทรงพลังและอบอุ่นต่อการพัฒนาการศึกษาของจีน
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2013 ก่อนจะถึงวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งตรงกับ“วันเด็กนานาชาติ” นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อเด็กและเยาวชนจีน ในฐานะ “เพื่อนตัวใหญ่” ของเด็กจีนทั้งหลาย ชีวิตวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าที่สุดของเราทุกคน เวลาอยู่กับเด็ก ๆ นายสี จิ้นผิง จะเล่าประสบการณ์ในวัยเด็กของเขา ที่แฝงด้วยปรัชญาการใช้ชีวิตให้ ให้เด็ก ๆ ฟังและเรียนรู้
ต่อมาในวันเด็กนานาชาติปี ค.ศ. 2014 นายสี จิ้นผิง ได้ไปเยือนโรงเรียนประถมชนเผ่า ในเขตไห่เตี้ยน ของกรุงปักกิ่ง ได้เห็นนักเรียนฝึกเขียนตัวอักษรจีนว่า “จิง จง เป้า กว๋อ” หรือ จงรักภักดี พลีชีพเพื่อชาติ เขาจึงพูดกับนักเรียนทั้งหลายว่า “ตัวอักษรทั้ง 4 นี้ มีอิทธิพลต่อผมตั้งแต่เด็ก เมื่อผมอายุ 4 - 5 ขวบ แม่เคยซื้อนิทานจีนที่มีภาพประกอบมาให้อ่าน และเล่าเรื่องแม่ทัพงักฮุย และเรื่องมารดาของงักฮุยที่สักคำว่า ‘จิน จง เป้า กว๋อ’ บนหลังของเขา ผมเคยถามแม่ว่า สักตัวอักษรบนผิวหนังไม่เจ็บหรือ แม่ตอบว่า ต้องเจ็บมาก แต่งักฮุยจะจำคำสี่คำนี้ในใจตลอดชีวิต เรื่องนี้ ผมจำไว้จนถึงทุกวันนี้ และถือความจงรักภักดี พลีชีพเพื่อชาติ เป็นเป้าหมายสูงสุดของผมเองมาโดยตลอด”
ตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิง เพื่อนตัวใหญ่ของเด็ก ๆ มักจะร่วมฉลองเทศกาลวันเด็กนานาชาติกับเด็กจีน ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยมศูนย์กิจกรรมเด็กและเยาวชน ที่มหาศาลาประชาชนจีน สถานสงเคราะห์เด็ก หรือแม้กระทั่ง เด็กที่อยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราวในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งนี้ ได้กลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของเด็กและเยาวชนจีน ภาพต่าง ๆ อันอบอุ่น ซาบซึ้งใจของนายสี จิ้นผิง เมื่ออยู่กับเด็ก ๆ แสดงให้เห็นถึงความหวังของผู้นำสูงสุดจีนที่มีต่อชาวจีนยุคใหม่
นายสี เคยพูดกับเด็กจีนว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่กลุ่มเด็กและเยาวชนจีนจะมีความแข็งแกร่ง ดังนั้น พวกเธอต้องใช้ความพยายามตั้งแต่เด็ก สีครามนั้นมาจากต้นคราม แต่ก็ยังมีสีที่เข้มกว่าสีคราม เป็นการอุปมาว่า คนรุ่นหลังเหนือกว่าคนรุ่นก่อน ฉะนั้น การพัฒนาของประเทศชาติก็ขึ้นอยู่กับคนรุ่นหลังนั่นเอง หากเด็กรุ่นนี้จะเก่งกว่าคนรุ่นก่อน ประเทศจีนก็ย่อมจะพัฒนาเข้มแข็งกว่าที่ผ่านมา
ปี ค.ศ. 2016 ก่อนที่จะถึง “วันครู” ของจีน นายสี จิ้นผิง ได้ไปถึงโรงเรียนปาอี ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เขาเคยศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้น นายสี จิ้นผิง ได้ไปเยี่ยมเยียนครูเฉิน ชิวหยิ่ง และครูคนอื่น ๆ พร้อมกับรำลึกความหลังอย่างมีความสุข นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า
“วันนี้ ผมได้มีโอกาสกลับถึงโรงเรียนเก่าอีกครั้ง และรู้สึกอบอุ่นใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่ง ผมได้กลับไปสถานที่เก่าในความทรงจำ และเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมากของโรงเรียนในทุกวันนี้ ระยะเวลาที่เป็นนักเรียนเป็นช่วงเวลาที่ผมคิดถึงอยู่เสมอ ผมได้นึกถึงคำสั่งสอนของครูทุกคน ได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณของโรงเรียน ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ผมก็ไม่เคยลืมครูและโรงเรียนที่เคยดูแลสั่งสอนผม”
ในสายตาของนายสี จิ้นผิง “หนึ่งร้อยปีแห่งการพัฒนาประเทศจีน การศึกษาย่อมเป็นพื้นฐาน และครูก็เป็นพื้นฐานแห่งการพัฒนาการศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบการเติบโตทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กทุกคน เป็นผู้มีภาระหน้าที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาการศึกษาที่ดี” ตั้งแต่การประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 18 เป็นต้นมา การเขียนจดหมาย การเยี่ยมชม และการจัดประชุมสัมมนา ล้วนแสดงถึงการให้ความสำคัญและการฝากความหวังไว้ที่บรรดาครูบาอาจารย์ของนายสี จิ้นผิง
“คน ๆ หนึ่งหากได้พบกับครูที่ดี นับเป็นความโชคดีในชีวิตของคน ๆ นั้น โรงเรียนแห่งหนึ่งหากมีครูที่ดี นับเป็นเกียรติของโรงเรียนแห่งนั้น ชนชาติหนึ่งหากมีครูที่ดีรุ่นต่อรุ่น นับเป็นความหวังของชนชาตินั้น ผมหวังว่า ครูทั้งหลายของจีนจะทำตัวให้ดี เป็นผู้ชี้แนวทางให้แก่นักเรียน อบรมปลูกฝังนิสัย ให้การศึกษา ความรู้ ตลอดจนแนวคิดนวัตกรรมใหม่ และการทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ”
(Tim/Zi/Zhou)