วันที่ 5 มีนาคม รัฐบาลจีนยื่นรายงานการทำงานของรัฐบาลต่อสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของจีน เพื่อดำเนินการตรวจสอบพิจารณา โดยมีการกำหนดดัชนีสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีนี้ รวมถึง มวลรวมการผลิตภายในประเทศ หรือจีดีพีโตขึ้น 6% - 6.5% เพิ่มโอกาสการมีงานทำกว่า 11 ล้านตำแหน่ง อัตราการเติบโตของราคาบริโภคหรือ ซีพีไอ (CPI) อยู่ที่ประมาณ 3% ลดจำนวนประชากรยากจนในชนบทกว่า 10 ล้านคน และปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยจีดีพีลดลง 3% เป็นต้น

ปัจจุบัน การเติบโตของเศรษฐกิจโลกช้าลง จึงส่งผลกระทบต่อจีน ในขณะที่ ภายในประเทศของจีนก็มีแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวของรัฐบาลจีน จึงถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการพัฒนา จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพและมั่นคง

จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก ปี 2018 ตัวเลขการพัฒนาทางเศรษฐกิจจีนทะลุ 90 ล้านล้านหยวน และกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงโครงสร้างสำคัญ ที่พัฒนาจากการเติบโตด้วยความเร็วสูงไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพ การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงนั้น มีลักษณะสำคัญคือ ต้องไม่ยึดถือจีดีพีเป็นหลัก แต่จะใช้ความพยายามในการกระตุ้นศักยภาพของเศรษฐกิจและกำลังแข่งขันในตลาด จีนกำหนดดัชนีการเติบโตที่ต่ำกว่าปี 2018 สาเหตุสำคัญคือกระแสโลกด้านเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับกระแสต้านทานอย่างรุนแรง อีกทั้งมีข้อขัดแย้งทางการค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกเติบโตช้า องค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งได้ปรับลดการอัตราการเติบโตทั่วโลกที่คาดการณ์ในปีนี้ นายพอล ครูกแมน (Paul R. Krugman) เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐกิจกล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะถดถอยในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความเสี่ยงและการท้าทายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การปรับลดเป้าหมายการเติบทางเศรษฐกิจให้ต่ำลงอย่างเหมาะสมนั้น มีส่วนช่วยจีนรับมือกับความท้าทาย รักษาการพัฒนาของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

(Bo/Lin/zhou)