ปีนี้ การประชุมสองสภาของจีนได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร. วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีของไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสองสภา โดยบอกว่า รัฐบาลไทยได้ติดตามการประชุมสองสภาจีนทุก ๆ ปี และให้ความสนใจกับการดำเนินงานของรัฐบาลจีน

 “(การประชุมสองสภาจีน)ถือเป็นการประชุมสำคัญอีกครั้งหนึ่งต่อจากการประชุมที่สำคัญมากเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อปีที่แล้วเราก็เห็นว่าหลังการประชุมได้มีความเปลี่ยนแปลงหรือได้มีการเอาอะไรใส่ลงไปในธรรมนูญของพรรค จนชัดเจนมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้ก็รอดูอยู่ว่า จะมีผลจากการประชุมนั้นที่จีนเองได้ประกาศคืออะไร แล้วจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ปีที่แล้วเราได้เรื่องของ One belt one road มา ได้เรื่องของนโยบายของท่านสี จิ้นผิง ที่เอาไปใส่ในธรรมนูญ ได้เรื่องนโยบายการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นเวลานี้คนทั่วโลกกำลังจับตาดูเรื่องของ สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน เรื่องผลการประชุมสภาที่มีกันอยู่ในขณะนี้ และดูว่า (outcome) ผลหลังจากนั้นรัฐบาลจีนจะเดินหน้าอย่างไร แล้วตัวนั้นจะสำคัญมากกว่า มากกว่าการประชุม การประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาลจีนเท่านั้น สภาจีนเท่านั้น แต่ผลจากการประชุมนี่แหละ ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลจีน และมันจะส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย  "

สำหรับเรื่องที่การประชุมสองสภาจีนปีนี้ได้ส่งสัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ซึ่งมีผลต่อไทยและเศรษฐกิจโลกอย่างไร ในเรื่องนี้ดร. วิษณุกล่าวว่า

 “เศรษฐกิจจีนมีบทบาทแน่นอน GDP จีน มีผลต่อเอเชีย และก็ต่อโลก อย่างน้อยมันเป็น (Balance of power) การสร้างสมดุลในทางเศรษฐกิจด้วย เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งที่คนต้องจับตาดู คนที่ทำธุรกิจ คนที่อยู่ในรัฐบาลจะต้องจับตาดูสิ่งนี้ว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไร เช่นเดียวกับเรื่องสงครามการค้า (trade war) ที่เกิด ทุกคนต้องจับตาดู และดีใจเพราะเวลานี้ มันทำท่าว่าไปในทางที่ดีขึ้นกว่าที่คิดเยอะ ”  “เราได้แต่หวังว่า มันจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เพราะว่ามันจะส่งผลกระทบไม่ใช่ต่อประเทศทั้งสองที่เป็นคู่กรณี แต่มันกระทบต่อประเทศอื่นรวมทั้งประเทศไทยด้วย”

Bo/Patt/Zheng