2019-03-19 14:11CRI
วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 ว่า ต้องทุ่มเทกำลังในการสนับสนุนการพัฒนาเขตชนเผ่าและชนกลุ่มน้อย ปฏิบัติโครงการฟื้นฟูเขตชายแดนและช่วยเหลือคนที่อยู่บริเวณชายแดนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นายจาซี กรรมการสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ครูสอนภาษาทิเบตของโรงเรียนประถมที่หนึ่งเมืองชังดู เขตปกครองตนเองทิเบตให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า รัฐบาลจีนลงทุนเงินจำนวนมากเพื่อปรับปรุงสภาพการศึกษา บริเวณชายแดนและเขตชนกลุ่มน้อย ปัจจุบัน ทิเบตของจีนดำเนินนโยบายด้านการศึกษา แบบรับเหมา 3 อย่างคือ ไม่เก็บค่าใช้จ่าย ค่าที่พักและค่าเล่าเรียนแก่ลูกหลานชาวนาและเกษตรกรชาวทิเบต ซึ่งเห็นผลคืบหน้าในการส่งเสริมการศึกษาของทิเบตอย่างชัดเจน
ปีที่แล้ว นายจาซีได้รับคัดเลือกให้เป็นกรรมการสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ในแวดวงการศึกษา เขามีความประทับใจกับคำกล่าวว่าด้วยชีวิตความเป็นอยู่ในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลอย่างลึกซึ้ง “สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือรายงานผลการดำเนินงานของนายกรัฐมนตรีจีนที่ให้ความสนใจกับประชาชน ให้ความสนใจกับรากฐาน และให้ความสนใจกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ฟังแล้วรู้สึกชื่นใจมาก รายงานผลการดำเนินงานยังได้ออกนโยบายว่าด้วยการลดภาษีและเบิกค่ารักษาพยาบาลหลายอย่าง โดยเฉพาะในรายงาน ได้กล่าวว่า ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงและจิตใจที่เข้มแข็ง สังคมก็เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตชีวา ประเทศก็เจริญรุ่งเรือง โดยเจตนารมณ์แบบนี้สะท้อนว่ารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับประชาชนเพียงไร!”
นายจาซี อายุ 52 ปี ทำงานเป็นครูสอนภาษาทิเบตที่โรงเรียนประถมเกือบ 30 ปี เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า โรงเรียนประถมที่หนึ่งเมืองชังดูมีมา 29 ปี ตอนแรกมีแค่ครู 8 คน นักเรียน 108 คน แต่ปัจจุบันได้พัฒนาจนมีครู 155 คน และนักเรียน 2,112 คน นอกจากนี้ยังมีตึก และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เช่นห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องสมุดเป็นต้น
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ทิเบตของจีนเริ่มดำเนินนโยบายการศึกษา 3 ประการที่จะไม่เก็บค่าใช้จ่าย ค่าที่พักและค่าเล่าเรียนแก่ลูกหลานชาวนาและเกษตรกรชาวทิเบต และให้การศึกษาภาคบังคับฟรี 15 ปี โดยปี ค.ศ. 2018 ทิเบตได้เพิ่มมาตรฐานเงินช่วยเหลือให้แก่นักเรียน ซึ่งเรื่องนี้นายจาซีได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
“ในด้านนโยบายการศึกษาการรับเหมา 3 ประการนั้น ทิเบตปฏิบัติได้ดีอย่างมาก ซึ่งนโยบายดังกล่าวกำหนดโดยรัฐบาลจีน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย ค่าที่พักและค่าเล่าเรียนแก่นักเรียนก่อนเข้าโรงเรียนประถม 3 ปี จนจบมัธยมปลาย เป็นนโยบายที่สร้างคุณูปการมาก”
รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีนยังระบุว่า ต้องเร่งแก้ปัญหาห้องเรียนที่มีจำนวนนักเรียนมากเกินไปในเมืองและชนบท คุ้มครองการศึกษาของลูกที่พ่อแม่ไปทำงานในเมือง นายจาซีกล่าวว่า หลายปีก่อน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียน ทำให้โรงเรียนประถมที่หนึ่งเมืองชังดูประสบปัญหานักเรียนต่อหนึ่งห้องมีจำนวนมากเกินไป แต่เมื่อปีที่แล้ว โรงเรียนประถมที่สองเมืองชังดูได้เริ่มก่อตั้งขึ้น ปัญหาดังกล่าวจึงหมดไป โดยนายจาซีพูดถึงเรื่องนี้ว่า
“ก่อนหน้าปีที่แล้ว ห้องเรียนแต่ละห้องของโรงเรียนประถมที่หนึ่งเมืองชังดู มีนักเรียน 70-80 คน สภาพเช่นนี้มีมา 5-6 ปีแล้ว โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในท้องถิ่น พ่อแม่จากชนบทหรือหมู่บ้านที่ไปทำงานในเมืองชังดู ก็อยากที่จะส่งลูกมายังโรงเรียนเรา ฉะนั้นโรงเรียนเราก็ประสบปัญหาที่ห้องเรียนมีจำนวนจำกัด โดยปีที่แล้ว โรงเรียนประถมที่สองเมืองชังดูได้เริ่มก่อตั้งขึ้น ปัจจุบัน ห้องเรียนทุกห้องของโรงเรียนประถมที่หนึ่งเมืองชังดู มีนักเรียนประมาณ 50 คน สบายกว่าเมื่อก่อนเยอะ”
นายจาซียังกล่าวถึงการส่งคณะครูจากภาคตะวันออกไปช่วยเหลือการสอนหนังสือในทิเบตโดยกล่าวว่า นครเทียนสิน นครฉงชิ่งและมณฑลฮกเกี้ยนเป็นนครและมณฑลที่ช่วยเหลือการสอนหนังสือในทิเบต ซึ่งนครและมณฑลดังกล่าว ในแต่ละปีส่งครู 50 คน ไปยังโรงเรียนมัธยม 3 แห่งในเมืองชังดูเพื่อสอนวิชาภาษาจีนกลาง คณิตศาสตร์ ดนตรี พละศึกษา และจิตรกรรม เป็นต้น โดยวาระการสอนอยู่ที่ 1 ปีครึ่ง เขาหวังว่า ในอนาคต จะใช้แนวคิดด้านการศึกษาสมัยใหม่สอดแทรกในการเรียนการสอนด้วย
นายจาซี ยังได้แนะนำประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนใน 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากทำงานของตนให้เรียบร้อยแล้ว เขายังทำการสำรวจวิจัยมาหลายครั้ง โดยปีนี้ เขาได้เสนอญัตติว่าด้วยการส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น 4 รายการต่อสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ซึ่ง 4 รายการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องถึงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน พลังไฟฟ้าและทางด่วน
(Bo/Cui)