“วังต้องห้าม-กู้กงปักกิ่ง” ปลุกกระแสความนิยมใหม่ในจีน (2)

2019-04-12 10:16CRI

图片默认标题_fororder_2.1

บุคคลที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงของพระราชวังต้องห้ามคือ “ซั่น จี้เสียง” ผู้อำนวยการพระราชวังต้องห้าม-พิพิธภัณฑ์วังกู้กง

ปี 2012 นายซั่น จี้เสียงเริ่มดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพระราชวังต้องห้าม และปี 2013 พระราชวังต้องห้ามก็ได้เริ่มก้าวสู่หนทางแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่

นายซั่น จี้เสียงทบทวนว่า เมื่อครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาทำงานในพระราชวังโบราณแห่งนี้ เพื่อนร่วมงานได้มอบเอกสารแนะนำพระราชวังต้องห้ามฉบับหนึ่ง เนื้อหานั้นได้เขียนถึง ความเป็นที่สุดหลายอย่างของพระราชวังต้องห้าม แต่ซั่นจี้เสียงกลับเห็นว่า ความเป็นที่สุดต่างๆนานานี้ไม่มีความหมายอะไรสำหรับผู้ชม

เพราะเมื่อพูดถึงว่า พระราชวังกู้กงมีพื้นที่ใหญ่โต แต่พื้นที่ 70% กลับไม่เปิดให้ประชาชนเข้าชม และถ้าพูดว่ามีวัตถุโบราณเยอะแยะมากมาย แต่วัตถุโบราณ 99% กลับถูกเก็บไว้ในโกดัง ถ้าพูดว่ามีผู้เข้าชมมาก แต่ผู้ชม 80% พอเข้าถึงพระราชวังกู้กง ก็ต้องรีบเดินอย่างรวดเร็ว เพื่อชมว่าฮ่องเต้ประทับที่ไหน บรรทมที่ไหน จัดพิธีแต่งงานที่ไหน แล้วก็เที่ยวชมสวนดอกไม้เสร็จก็เดินออกไปเลย ไม่ได้มองพระราชวังเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างที่ตั้งใจไว้ กลับมองเป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป

ความเป็นที่สุดเหล่านี้ในสายตาของซั่นจี้เสียงแล้วไม่มีความหมายอะไร เขาเห็นว่าพระราชวังต้องห้ามไม่ควรนอนหลับอยู่ในความฝันแห่งประเด็นที่สุดเหล่านี้ ผู้ชมจะได้อะไรจากพระราชวังต้องห้ามเป็นเรื่องที่มีความหมายกว่า หรือองค์กรทางวัฒนธรรมของเราควรให้อะไรกับผู้มาเที่ยวชม

图片默认标题_fororder_2.2

ฉะนั้น  พิพิธภัณฑ์วังกู้กงจึงเริ่มหนทางเปลี่ยนแปลง โดยได้รื้อสิ่งก่อสร้างชั่วคราวในพระราชวัง 135 แห่ง จัดระบบซื้อตั๋วออนไลน์ และบูรณาซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างโบราณ และขยายพื้นที่เข้าชม

นอกจากนี้ ซั่นจี้เสียงยังพยายามให้มรดกวัฒนธรรมเหล่านี้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นอีกครั้ง เขาเคยกล่าวว่า สิ่งก่อสร้างโบราณ วัตถุโบราณมีอดีตที่รุ่งโรจน์ และก็ควรอยู่ในปัจจุบันอย่างมีศักดิ์ศรี และคงสืบไปสู่อนาคตอย่างราบรื่น ในอดีต เรามองสิ่งก่อสร้างโบราณและวัตถุโบราณเป็นสิ่งที่ควรได้รับการชื่นชม และการศึกษาวิจัย ทุกวันนี้ เรามองสิ่งก่อสร้างโบราณและวัตถุโบราณเป็นสิ่งที่มีชีวิต ต้องพยายามฟื้นคืนชีวิตให้

图片默认标题_fororder_2.3

นายซั่น จี้เสียงเห็นว่า การฟื้นคืนชีวิตให้แก่วัตถุโบราณนั้น ก่อนอื่นต้องให้ผู้คนมีโอกาสชมวัตถุโบราณมากขึ้น แม้ผู้ชมที่มาชมนั้นมีมากมาย แต่เมื่อเทียบกับประชากรจีนทั้งประเทศแล้ว ยังคงเป็นส่วนน้อยอยู่ ฉะนั้น พิพิธภัณฑ์วังกู้กงจึงทำการปรับปรุงเว็บไซต์ทางการถึง 3 ครั้ง โดยจัดแสดงวัตถุโบราณทั้งหมดของพระราชวังผ่านทางเว็บไซต์ และได้จัดตั้งหน่วยงานถ่ายรูปวัตถุโบราณ 3 แห่ง เพิ่มรูปถ่ายของวัตถุโบราณบนเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้มีผู้กดเข้าชมเว็บไซต์ทางการของพระราชวังต้องห้ามถึงวันละล้านคน เป็นการให้ความรู้ทางวัฒนธรรมกับผู้คนทั่วไปผ่านทางเว็บไซต์

หลายปีมานี้ “พระราชวังต้องห้าม-พิพิธภัณฑ์วังกู้กง” ได้มีผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมออกสู่ตลาดมากมาย ทำให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจวัฒนธรรมพระราชวังโบราณมากขึ้น นายซั่น จี้เสียงทบทวนว่า ในอดีตนั้น ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของพระราชวังโบราณส่วนใหญ่เป็นการก๊อปปี้วัตถุโบราณจริงมาตรงๆ ไม่มีความสร้างสรรค์อะไร ผลที่ตามมาก็คือไม่มีใครสนใจซื้อ ทุกวันนี้ เราศึกษาว่า ผู้คนต้องการซื้ออะไรในชีวิตประจำวัน พวกเขาใช้เวลาว่างอย่างไร นอกจากนี้ยังได้ศึกษาข้อมูลที่แฝงอยู่ในตัววัตถุโบราณ เพื่อประสานกับความต้องการที่เป็นจริงของผู้คน เพื่อจะทำให้ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมนี้ดึงดูดผู้คนได้อย่างแท้จริง

พิพิธภัณฑ์วังกู้กงได้จัดทีมงานออกแบบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมหลายทีม และยังสนับสนุนให้ผลิตอย่างมีความหลากหลาย แต่ละเดือนผลิตได้หลายสิบถึงหลายร้อยชนิด เมื่อวางตลาดแล้วสามารถพิสูจน์ได้ว่าชนิดไหนขายดี ชนิดไหนขายไม่ได้ นอกจากนี้ทางพระราชวังโบราณยังร่วมมือกับนักออกแบบชื่อดัง เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมให้มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย

เมื่อจัดการแสดงวัตถุโบราณต่างๆ  พิพิธภัณฑ์วังกู้กงยังจะออกแบบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น เมื่อจัดนิทรรศการภาพวาดคีรีและคงคาพันลี้ ทางพระราชวังก็ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น แก้วน้ำลายภาพคีรีและคงคาพันลี้

ทุกวันนี้ “พระราชวังต้องห้าม-พิพิธภัณฑ์วังกู้กง” ได้ออกแบบกรอบมือถือกว่า 480 แบบ และยังออกแบบของเล่นเด็ก กระเป๋า และหูฟังที่มีเอกลักษณ์กู้กงด้วย

(Yim/cici)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)