หลายวันมานี้ มีข่าวที่เกี่ยวกับขยะสองชิ้นเป็นที่น่าจับตามอง ข่าวชิ้นที่หนึ่งคือ ฟิลิปปินส์รู้สึกรำคาญกับขยะจากแคนาดาและโกรธว่า ต้องขนขยะเหล่านี้กลับ หรือไม่ก็จะประกาศสงครามกับแคนาดา ข่าวอีกหนึ่งชิ้นคือ มาเลเซียปฏิเสธรับขยะจากสหรัฐฯ และแถลงอย่างชัดเจนว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ควรถือมาเลเซียเป็นที่ทิ้งขยะ

การจัดการปัญหาขยะมูลฝอยดูแล้วอาจเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าจัดการไม่ดี ก็จะเกิดความขัดแย้งกันระหว่างเพื่อนบ้านตลอดจนเกิดข้อพิพาท และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า การสร้างสรรค์บ้านเมืองที่สวยงามน่าอยู่ จะต้องไม่ขนถ่ายขยะมูลฝอยไปยังประเทศอื่นๆ จนทำให้ประเทศอื่นๆ ได้รับผลกระทบ มนุษย์ควรปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พยายามสร้างสรรค์วิถีชีวิตสีเขียว เพื่อสร้างสังคมที่ดีงามให้การอยู่ร่วมกันระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์เป็นไปอย่างกลมกลืน

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา งานมหกรรมพืชสวนโลกปักกิ่ง 2019 ภายใต้ธีม “วิถีชีวิตสีเขียว บ้านเมืองสวยงาม” เปิดฉากที่กรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ งานมหกรรมพืชสวนโลกได้รับการขนานนามว่า เป็นงานกีฬาโอลิมปิกในมวลพฤกษชาติ โดยมี 110 ประเทศและองค์กรสากลได้เปิดตัวพืชพันธุ์ไม้ใหม่และคุณภาพดีจำนวน 1,200 ประเภท นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวคำปราศรัยด้านการสร้างอารยธรรมระบบนิเวศของจีนในพิธีเปิดงาน โดยเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ร่วมสร้างสรรค์บ้านเมืองที่สวยงามน่าอยู่ ร่วมสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน

การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์เป็นหนึ่งในอุดมการณ์ที่ชาวจีนแสวงหา ในวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน ในสมัยจักรพรรดิที่ต่างกันในประวัติศาสตร์จีน เคยมีคำสั่งห้ามโค่นต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิและจับปลาในฤดูร้อน เป็นต้น

ถึงแม้ความเป็นอุตสาหกรรมได้สร้างทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลให้กับมนุษย์ ชีวิตที่ร่ำรวยของชาวโลกในยุคปัจจุบันก็มีส่วนมาจากความเป็นอุตสาหกรรม แต่มนุษย์ก็เผชิญกับความเป็นจริงที่น่าละอายอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ ในกระบวนการพัฒนานั้น มนุษย์มักจะทำลายสิ่งแวดล้อมที่ตนพึ่งพา นี่ก็คือสาเหตุที่กรุงลอนดอน ซึ่งเคยได้รับฉายาว่า “เมืองแห่งหมอก” ในทศวรรษ 1960 และยังเคยมีแม่น้ำเกิดไฟไหม้ในสหรัฐฯ เนื่องจากมลพิษรุนแรง ส่วนประเทศจีนก็เคยประสบความทุกข์จากมลพิษต่าง ๆ ในหลายปีที่ผ่านมา

ในขณะที่จีนดำเนินการความเป็นอุตสาหกรรมและช่วยชาวนาย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในเมืองนั้น ทำอย่างไรถึงจะให้ผู้คนสามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าและดมกลิ่นหอมของที่ดินได้ จีนเริ่มคิดและวางแผนกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจตั้งแต่แรก และเริ่มการสร้างสรรค์อารยธรรมระบบนิเวศ โดยปี 2018 การสร้างสรรค์อารยธรรมระบบนิเวศได้ถูกบันทึกไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขของจีน

ถึงแม้จะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยคิดว่า เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ อาจจะต้องเสียสละสิ่งแวดล้อม แต่ชาวจีนคิดว่า ควรแสวงหารูปแบบความสมดุลระหว่างการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในด้านนี้ จีนเป็นทั้งผู้ได้รับประโยชน์และเป็นผู้ปฏิบัติ มีความเป็นจริงอยู่ข้อหนึ่งคือ การลงทุนพลังงานสะอาดของจีนจัดอยู่อันดับแรกของโลกติดต่อกันหลายปี การใช้พลังงานใหม่และพลังงานทดแทนก็จัดอยู่ในอันดับแรกของโลก โดยการลงทุนในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจจีน ซึ่งแสดงว่า การพัฒนาแบบสีเขียวสามารถนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองได้

(Bo/Cui/Zhou)