ต่อไปเป็นขั้นตอนที่ 3 ของการเติบโตของเด็ก คือ ตั้งแต่อายุ 10-12 เดือน

เด็กอายุ 10 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ ออกเสียง a, da, ma, na ที่ไม่มีความหมายอะไรได้ ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วอื่นๆคว้าจับสิ่งของต่างๆได้ และรู้จักเล่นซ่อนแอบ

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจนั่งเองได้ ดึงวัตถุพยุงตัวขึ้นยืน ออกเสียง “อีอีอาอา” เลียนแบบการพูด ใช้สองมือจับสิ่งของเคาะเล่น เช่น บล็อกตัวต่อ เป็นต้น และอาจเล่นเกมปรบมือหรือโบกมือลาเป็น

เด็กอายุ 11 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ นั่งทรงตัวเองได้แล้ว และสามารถดึงวัตถุพยุงตัวขึ้นยืนได้

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจเดินได้โดยใช้วิธีเกาะยึดหลักใกล้ตัว ออกเสียงอีอีอาอาเลียนแบบการพูด อาจหยิบสิ่งของได้ด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ อาจใช้สองมือจับสิ่งของเคาะเล่น เช่น บล็อกตัวต่อ เป็นต้น เล่นเกมปรบมือ หรือโบกมือลาผู้อื่น

เด็กอายุ 12 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ เดินโดยอาศัยวิธีพยุงยึดเกาะหลักใกล้ตัว ออกเสียงอีอีอาอาได้แล้ว ใช้สองมือจับสิ่งของเคาะเล่น  เช่น บล็อกตัวต่อ เป็นต้น เล่นเกมปรบมือหรือโบกมือลาเป็น

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ ออกเสียงอีอีอาอาและรู้จักชี้มือชี้ไม้ ยืนทรงตัวได้ชั่วครู่โดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งอื่น

ต่อไปเรามาการเติบโตของเด็ก 1-2 ขวบนะคะ

ภาคแรกคือ เด็กอายุ 13-17 เดือน หรือก็คือประมาณ 1 - 1ขวบครึ่ง

เด็กอายุ 13-14 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ  การยืน จะเปลี่ยนจากต้องมีคนอื่นมาช่วยจับพยุงหรือยึดจับหลักช่วยทรงตัว มาเป็นการยืนด้วยตนเองได้ครู่หนึ่ง และค่อยๆเดินได้ดีขึ้น สามารถออกเสียงอีอีอาอาและรู้จักชี้มือชี้ไม้ รู้จักส่งเสียงหรือแสดงปฏิกิริยาทางร่างกายเพื่อบอกความต้องการของตัวเอง

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจรู้จักใช้มือและเท้าช่วยก้าวข้ามบันได อาจก้าวถอยหลังเป็น อาจสามารถพูดคำอื่นได้อีกนอกจากคำว่า พ่อ แม่ อาจเข้าใจคำเรียกส่วนของร่างกายบางคำ อาจเรียงบล็อกซ้อนสองชั้นได้ และอาจทำสิ่งง่ายๆ เช่น ใช้ถ้วยดื่มน้ำได้

เด็กอายุ 15-17 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ เรียงบล็อกตัวต่อได้ จากที่ไม่ชำนาญสามารถทำได้อย่างง่ายดายขึ้น เลียนแบบการทำงานบ้าน และใช้ถ้วยดื่มน้ำได้

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ จับเขวี้ยงลูกบอลเป็น ใช้มือและเท้าก้าวข้ามบันได  เดินถอยหลังได้ เข้าใจเรื่องทิศทางในขั้นต้น อาจพูดคำอื่นได้นอกจากเรียกพ่อ-แม่  เข้าใจคำเรียกส่วนของร่างกายบางคำ เรียงบล็อกต่อได้สูงและมั่นคงมากยิ่งขึ้น อาจรู้จักขีดเขียนเล่น กินข้าวเองได้ รักษาความค่อนข้างสะอาดบนโต๊ะอาหาร ถอดเสื้อผ้า รองเท้าและกางเกงเองได้ ทำสิ่งที่ง่ายๆ เช่น ล้างมือและเช็ดมือเอง และอาจรู้จักเล่นเกมกับคนอื่นเป็น

ต่อไปเรามาดูภาคที่ 2 ของพัฒนาการเด็กอายุ 1 ขวบครึ่ง - 2 ขวบ หรือเด็กอายุ 18-23 เดือน

เด็กอายุ 18-20 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ ก้าวข้ามบันไดและเดินถอยหลังได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว พูดเรียก “พ่อ” “แม่” ได้อย่างชัดเจน และพูดออกเสียงคำอื่นๆได้ค่อนข้างถูกต้อง รู้จักขีดเขียน

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจจับเขวี้ยงลูกบอลเป็น  เตะบอลได้ เข้าใจทิศทางมากขึ้น อาจเลียนแบบพูดคำซ้ำได้ บอกคำเรียกส่วนต่างๆของร่างกายที่ชี้ได้คล่องแคล่ว เรียงบล็อกได้สูงและมั่นคงมากยิ่งขึ้น กินข้าวเองได้ และอาจรักษาความค่อนข้างสะอาดบนโต๊ะอาหารได้ ถอดเสื้อผ้า รองเท้าและกางกงเองได้ ช่วยหยิบจับทำสิ่งที่ง่ายๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ค่อนข้างยอมรับการแยกกับผู้ที่ดูแลใกล้ชิดได้เป็นชั่วคราว และอาจเริ่มชอบเล่นเกมร่วมกับผู้อื่น

เด็กอายุ 21-23 เดือน

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ สามารถเตะบอลได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว พูดคำศัพท์ได้ถูกต้องมากขึ้น  บอกคำเรียกอวัยวะในร่างกายที่ชี้ได้อย่างคล่องแคล่วอย่างน้อย 1 อย่าง เรียงบล็อกได้สูงและมั่นคง ช่วยหยิบจับทำสิ่งที่ง่ายๆได้แล้ว

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจยืนขาเดียวทรงตัวได้ชั่วคราว ยกมือปาลูกบอลได้อย่างคล่องแคล่ว กระโดดด้วยเท้าทั้งสอง อาจเข้าใจเรื่องทิศทางอย่างลึกซึ้งมากขึ้น เรียงบล็อกได้สูงและมั่นคงขึ้น อาจวาดเลียนแบบเส้นตรงได้ และขณะทานข้าวด้วยตนเอง สามารถรักษาความสะอาดบนโต๊ะอาหารได้มากยิ่งขึ้น ยอมรับการแยกกับผู้ดูแลเป็นการชั่วคราวได้ไม่ยาก  อาจรู้จักถอดเสื้อผ้า รองเท้าและกางเกงได้อย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น ทดลองใส่ถุงเท้า รองเท้าและกางเกงเอง อาจสามารถล้างมือและเช็ดมือได้ดียิ่งขึ้น ชอบที่จะเล่นเกมร่วมกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น

ต่อไปเป็นพัฒนาการของเด็กอายุ 2-3 ขวบ

เด็กอายุ 2-2.5 ขวบ

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ เข้าใจเรื่องทิศทางได้ดีแล้ว ขณะทานข้าวเองก็สามารถรักษาความสะอาดบนโต๊ะอาหารได้ค่อนข้างดี สามารถถอดเสื้อนอก รองเท้าและกางเกงเองได้

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจลองกระโดดไกลได้ ยืนทรงตัวขาเดียวได้เป็นการชั่วคราว โยนลูกบอลได้อย่างคล่องแคล่ว กระโดดด้วยเท้าทั้งสอง เรียงบล็อกได้สูงและมั่นคงมากยิ่งขึ้น อาจสามารถวาดเลียนแบบวงกลมหรือเส้นตรงได้ อาจเข้าใจเรื่องความสั้นยาว เช่น เด็กอาจสามารถแยกแยะเลือกเส้นที่ค่อนข้างยาวหรือเส้นที่ค่อนข้างสั้นได้ในจำนวนสองเส้น

อาจรู้จักติดกระดุมเสื้อหรือใส่เสื้อได้ภายใต้การช่วยเหลือจากผู้ปกครอง สามารถยอมรับการแยกกับผู้ดูแลได้ชั่วคราว อาจใส่ถุงเท้า รองเท้าและกางเกงเองได้ อาจล้างมือและเช็ดมือเป็น ชอบเล่นเกมร่วมกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น

เด็กอายุ 2.5-3 ขวบ

สิ่งที่“ควรทำได้”คือ สามารถก้าวกระโดดไกลได้อย่างคล่องแคล่ว ยืนทรงตัวขาเดียวได้เป็นเวลานานกว่าเดิม โยนลูกบอลได้อย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น สามารถกระโดดด้วยเท้าทั้งสองได้อย่างคล่องแคล่ว วาดเลียนแบบเส้นตรงได้ ยอมรับการแยกกับผู้ดูแลชั่วคราว รู้จักใส่ถุงเท้า รองเท้าและกางเกงเองได้  ล้างมือและเช็ดมือได้ ร่วมเล่นเกมกับผู้อื่นได้อย่างสนุกสนานคล่องแคล่ว

ส่วนสิ่งที่“อาจจะทำเป็น”คือ อาจยืนทรงตัวขาเดียวได้นาน และสามารถกระโดดขาเดียวได้ เข้าใจความหมายของคำว่า เย็นร้อน เหนื่อยและหิวข้าว เรียงบล็อกได้สูงและมั่นคงขึ้น วาดเลียนแบบวงกลมหรือเส้นตรงได้ อาจเข้าใจความหมายของคำว่า ยาวกับสั้น ได้แล้ว อย่างเช่น สามารถเลือกเส้นที่ค่อนข้างยาวได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว  สวมเสื้อผ้าชุดที่ง่ายๆ และติดกระดุมเสื้อเองได้

Yim/kt