2019-09-07 16:13CRI
วันที่ 6 กันยายน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนพบกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่กรุงปักกิ่ง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงย้ำถึงสัดส่วนการขยายความร่วมมือระหว่างจีน-เยอรมนีที่จะต้องเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังต้องเคารพซึ่งกันและกัน มีการปรึกษาหารือร่วมกัน โดยต้องเคารพแนวทางการพัฒนาของกันและกัน คำนึงถึงประโยชน์หลักของอีกฝ่าย เพื่อเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถเจรจากันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ดำเนินความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนและศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงชี้ว่าขณะนี้นโยบายเอกภาคีและการกีดกันทางการค้าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพ และเสถียรภาพของโลก จีนและเยอรมนีในฐานะประเทศขนาดใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต้องกระชับการแลกเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ ประสานและร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายร่วมกัน ของมวลมนุษยชาติมากกว่าในอดีต
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังย้ำว่าต้องขยายสัดส่วนความร่วมมือระหว่างจีน-เยอรมนีให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะตลาดจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และจะสามารถสร้างโอกาสใหม่ให้กับเยอรมนีและประเทศต่างๆ ทั่วโลกไปพร้อมๆ กับการพัฒนาตลาดจีน ความร่วมมือในอุตสาหกรรมรถยนต์ระหว่างจีน-เยอรมนีก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินความร่วมมือ ที่อำนวยประโยชน์แก่กัน มีชัยชนะร่วมกันระหว่างสองประเทศ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงต้องรักษาวิสัยทัศน์และการเปิดกว้าง ส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่พัฒนาขึ้นใหม่ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์พลังงานใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ ดิจิทัล และเทคโนโลยี 5 G นอกจากนี้ยังต้องร่วมกันบ่มเพาะและบุกเบิกตลาดในอนาคต ขณะนี้จีนกำลังเร่งขยายการเปิดภาคการเงิน และภาคบริการให้มากขึ้น ยินดีต้อนรับนักธุรกิจเยอรมันมาลงทุน รวมถึงยินดีให้วิสาหกิจเยอรมันมีส่วนร่วมในการพัฒนาแถบเศรษฐกิจแม่น้ำฉางเจียง
ประธานาธิบดีสี ทิ้งท้ายว่า จีน-เยอรมนีจะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันในการพิทักษ์ความยุติธรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งปกป้องการค้าเสรี ระบอบพหุภาคี อีกทั้งยังต้องกระชับความร่วมมือในด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ และความร่วมมือกับแอฟริกาด้วย
ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า การพูดคุยเจรจาและความร่วมมือระหว่างเยอรมนี-จีนได้ดำเนินการในขอบเขตที่กว้าง จีนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับหนึ่งของเยอรมนี ปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาไปสู่แนวทางที่ดี เยอรมนีรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมแบ่งปันผลประโยชน์จากการดำเนินนโยบายขยายการเปิดสู่ภายนอกของจีน เยอรมนียินดีที่จะเพิ่มการลงทุนในจีนต่อไป และจะขยายขอบเขตความร่วมมือ รวมทั้งจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านบุคลากรและวัฒนธรรมกับจีน
นายกฯ เยอรมนียังกล่าวอีกว่า นโยบายเอกภาคี และการกีดกันทางการค้าได้ส่งผลกระทบทางลบต่อเยอรมนีเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทุกฝ่ายจึงต้องทุ่มเทกำลังในการแก้ไขข้อพิพาทและความขัดแย้งอย่างสมเหตุสมผล โดยผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือกัน เยอรมนียินดีส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและประสานงานกับจีนในกิจการระหว่างประเทศ นอกจากนี้เยอรมนียังยินดีที่จะแสดงบทบาทในเชิงสร้างสรรค์ด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับจีน
(bo/cai)