2019-09-09 08:52ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
วันที่ 3 ก.ย. โฆษกสำนักงานกิจการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าได้แสดงความคิดเห็นและจุดยืนในสถานการณ์ฮ่องกงและตอบคำถามกับนักนักข่าวในงานแถลงข่าว มีบทสรุปดังต่อไปนี้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิง
สถานการณ์ฮ่องกงและจุดยืนที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันสถานการณ์ฮ่องกงมีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทิศทางเชิงบวก “การยุติความรุนแรงและความวุ่นวาย รวมทั้งการกลับคืนของกฎระเบียบและความสงบ” กลายเป็นฉันทามติและข้อเรียกร้องที่กว้างขวางที่สุดของชาวฮ่องกงทุกอาชีพ ทุกชนชั้น ตัวแทนวงการและชุมชน สมาคมต่างประณามความรุนแรงและการกระทำที่ผิดกฎหมายและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดถูกต้องด้วยวิธีการสนทนา เจรจา วันที่ 17 ส.ค. ประชาชนราว 5 แสนคนได้เข้าร่วมกิจกรรมการรวมตัวท่ามกลางฝนตกหนัก ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติความรุนแรง ฟื้นฟูฮ่องกง รัฐบาลเขตปกครองพิเศษและกองตำรวจปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายตามกฎหมายอย่างแน่วแน่ นางแคร์รี แลมผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลเขตปกครองพิเศษพยายามเปิดการสนทนากับผู้คนวงการต่างๆ และอยากรับรู้ความต้องการและความคาดหวังของชาวฮ่องกง ชาวจีนโพ้นทะเลและนักเรียนจีนที่เรียนในต่างประเทศต่างพากันจัดการเดินขบวนขึ้นเองเพื่อแสดงความรักชาติและความโกรธแค้นต่อความรุนแรงที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องความอิสระ
แต่สถานการณ์ภายในฮ่องกงยังคงมีความตึงเครียดและซับซ้อนอยู่ ความรุนแรงและกิจกรรมผิดกฎหมายยังไม่ได้ถูกปราบปรามอย่างสิ้นสุด เกิดการประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นด้วยวิธีอันโหดเหี้ยม เช่น การโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาวุธสังหาร การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัว การพยายามปลุกระดมให้ชาวฮ่องกงเกลียดชังเจ้าหน้าที่ตำรวจ การโจมตี ดูถูกและกักกันนักท่องเที่ยวที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างผิดกฎหมาย การแห่ถอนเงินและสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับเศรษฐกิจการเงิน การกีดขวางเส้นทางจราจร การทำลายสาธารณูปโภค เป็นต้น เพื่อกดดันรัฐบาลเขตปกครองพิเศษ มีคนเรียกร้องประท้วงว่าให้ฮ่องกงต้องเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่ตามสถานที่ต่างๆ และยังขอให้มีการแทรกแซงจากต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มคนเหล่านั้นปลุกระดมให้นักเรียนหยุดเรียนเพื่อรวมตัวประท้วงกัน ซึ่งใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือในการบรรลุจุดประสงค์ทางการเมือง ข้อเท็จจริงข้างต้นดังกล่าวแสดงว่า การกระทำของกลุ่มนี้ได้เกินกว่าขอบเขตของการรวมตัวเดินขบวนแบบปกติและถือเป็นอาชญากรรมที่รุนแรง ไม่มีสังคมอารยธรรมใด หรือสังคมแห่งนิติรัฐใด จะยอมทนกับการออกอาละวาดใช้ความรุนแรงแบบนี้ กลุ่มเหล่านี้เป็นการประท้วงสร้างความวุ่นวายอย่างเด่นชัด
ชาวฮ่องกงมีความเข้าใจดีว่าสถานการณ์ในการแก้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นได้ผิดกับเป้าหมายดั้งเดิมอย่างเด่นชัด จุดประสงค์ของผู้ประท้วงบางราย คือการสร้างความวุ่นวายและความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลเขตปกครองพิเศษ และยึดอำนาจการปกครองเพื่อที่จะทำให้ฮ่องกงมีความเป็นเอกราชหรือกึ่งเอกราชในการเมือง มีอำนาจปกครองตนเองอย่างเป็นเอกเทศ โดยอ้างว่าชาวฮ่องกงปกครองด้วยตนเองและต่อต้านรัฐบาลกลาง สุดท้ายจะกลายเป็นการทำลายหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องรักษาหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” และความมั่นคงและมั่งคั่งของฮ่องกงแล้ว ในเรื่องการยุติความรุนแรงและความวุ่นวายซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกง จะไม่มีการประนีประนอมและอ่อนข้อต่อประเด็นนี้อย่างเด็ดขาด
สำนักงานฯ เสนอความคิดเห็น ๓ ข้อ ได้แก่
ข้อแรก หวังว่ารัฐบาลเขตปกครองพิเศษและผู้คนวงการต่างๆ มีความเห็นพ้องกันในการยุติความรุนแรงและวุ่นวาย รวมทั้งการฟื้นคืนกฎระเบียบและความสงบ และนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การปกป้องประเทศชาติเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษรวมทั้งฝ่ายการบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการและผู้คนวงการต่างๆ ถือการยุติความรุนแรงและวุ่นวาย รวมทั้งการฟื้นคืนกฎระเบียบและความสงบเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดสำหรับฮ่องกงและสนับสนุนการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารและตุลาการ เพื่อปราบปรามความรุนแรงและลงโทษผู้คนที่ใช้ความรุนแรง ส่วนผู้วางแผนและผู้จัดการความรุนแรงเราต้องจับกุม สอบสวนและลงโทษอย่างเด็ดขาด
ข้อที่สอง หวังว่าทุกท่านแบ่งแยกการเดินขบวนอย่างสันติเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะหยุดการกระทำที่รุนแรงและท้าทายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ให้ได้ กิจกรรมการเดินขบวนเป็นสิทธิ์ชาวฮ่องกงที่ได้จากกฎหมายพื้นฐาน การเดินขบวนอย่างสันติตามกฎหมายสอดคล้องกับหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อใด แต่การเดินขบวนอย่างสันติผิดกับการกระทำของผู้ก่อการร้ายเป็นอย่างมากซึ่งกลุ่มเหล่านั้นท้าทายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ต่อต้านองค์การประจำฮ่องกงของรัฐบาลกลาง ดูถูกและทำลายธงชาติและตราสัญลักษณ์ประจำชาติ ปะทะโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองผู้บริสุทธิ์ ทำลายสิ่งของของสาธารณะและบุคคลส่วนตัวและความมั่นคงของฮ่องกง สำหรับการกระทำเช่นนี้ต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างแน่วแน่น
ข้อที่สาม รวมพลังแก้ไขปัญหาร่วมกัน หวังว่าทุกท่านให้ความสนใจและข้อเสนอแนะให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกงและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกงซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐาน เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงว่าถึงเวลาต้องให้ความสนใจอย่างมากและแก้ไขปัญหารากลึกของสังคมฮ่องกงด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพแล้ว รัฐบาลกลางสนับสนุนแคร์รี แลม ผู้นำฮ่องกงและการสนทนา เจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้คนวงการต่างๆ และเยาวชนเพื่อหารือแก้ไขปัญหาร่วมกัน รัฐบาลกลางจะยึดถือหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” และกฎหมายพื้นฐานอย่างหนักแน่น จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกงอย่างเต็มที่และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกง แบ่งปันผลประโยชน์ให้กับชาวฮ่องกงทุกคน
ตอบคำถามของนักข่าว
สำหรับคำถามที่ว่า รัฐบาลกลางจะจัดการสถานการณ์ฮ่องกงด้วยกฎระเบียบภาวะฉุกเฉินหรือไม่ มีมาตรการสุดท้ายในการแก้ปัญหาเหล่านี้หรือไม่ โฆษกระบุว่า การยุติความรุนแรงและวุ่นวาย รวมทั้งการฟื้นคืนกฎระเบียบและความสงบยังเป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในปัจจุบัน ประชาชนทุกกลุ่มพากันเรียกร้องการใช้กฎหมาย มาตราการที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เช่น การบังคับใช้กฎการห้ามปิดหน้า เป็นต้น มายุติความรุนแรงและฟื้นคืนกฎระเบียบ ทางรัฐบาลกลางจะสนับสนุนผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงและรัฐบาลเขตปกครองพิเศษยุติความรุนแรงด้วยวิธีจำเป็นตามกฎหมาย รักษาความปลอดภัยและสิทธิ์ต่างๆ ของชาวฮ่องกง รักษาศักดิ์ศรีกฎหมายของฮ่องกง รัฐบาลกลางและชาวฮ่องกงทุกคนล้วนหวังว่าจะหยุดความวุ่นวายและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในสังคมฮ่องกงอย่างเร็วที่สุด ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของฮ่องกงและผลประโยชน์ของชาวฮ่องกงทั้ง 7 ล้านคน นับเป็นความเรียกร้องและความต้องการที่สำคัญที่สุดของชาวฮ่องกง
สำหรับคำถามที่ว่า รัฐบาลกลางจะยอมรับฝ่ายค้านและคำเรียกร้องห้าประการซึ่งรวมไปถึงการเลือกตั้งผู้บริหารและสภานิติบัญญัติหรือไม่ โฆษกระบุว่า การกระทำของกลุ่มหัวรุนแรงที่สร้างความรุนแรง เหยียบย่ำกฎหมายและทำลายความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม ท้าทายหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ในรูปแบบคำเรียกร้องห้าประการนั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับผลประโยชน์ของฮ่องกงและประเทศอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นการข่มขู่และกลอุบายทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด โดยมีจุดประสงค์ที่จะฉกฉวยอำนาจการปกครองของฮ่องกงและทำลายหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ส่วนคำถามที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้บริหารและสภานิติบัญญัติ โฆษกได้เน้นว่ารัฐบาลกลางสนับสนุนข้อตกลงของฮ่องกงที่ได้มาตามกฎหมายพื้นฐานและคณะกรรมการสภาผู้แทนประชาชนซึ่งจะพัฒนาประชาธิปไตยทางการเมืองอย่างมั่นคงและรวดเร็ว บรรจุการเลือกตั้งผู้นำบริหารและสมาชิกสภานิติบัญญัติด้วยวิธีการเลือกตั้งโดยตรงเข้าไปในกฎหมายพื้นฐานฮ่องกง และได้จัดตารางเวลาการเลือกตั้งผู้บริหารและสภานิติบัญญัติ และปัจจัยสำคัญออกมา แต่เนื่องจากจุดประสงค์ของฝ่ายค้านในการเลือกผู้นำบริหารของคนและไม่ถูกครอบงำจากรัฐบาลกลางไม่ได้สำเร็จ ฝ่ายค้านจึงปฏิเสธกฎหมายการเลือกตั้งข้อนี้ โฆษกเน้นย้ำว่าระเบียบการเลือกตั้งต้องถูกต้องตามกฎหมายพื้นฐานและสอดคล้องกับข้อตกลงที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการสภาผู้แทนประชาชนและสอดคล้องกับสถานะทางการเมืองของฮ่องกงซึ่งเป็นเขตการปกครองภายใต้รัฐบาลจีน
ส่วนประเด็นคำถามที่เกี่ยวกับรัฐบาลกลางจะนิยามเหตุการณ์ฮ่องกงอย่างไรและจะใช้มาตราการที่ต่างกับเมื่อก่อนหรือไม่ โฆษกระบุว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฮ่องกงตอนนี้มีแนวโน้มของลัทธิการก่อการร้ายและได้แสดงลักษณะการปฏิวัติทางการเมือง ที่มีเป้าหมายในการทำลายรัฐบาลเขตปกครองพิเศษ ฉกฉวยอำนาจการปกครองและล้มล้างการปกครองแบบ “หนึ่งประเทศสองระบบ”
ส่วนคำถามที่เกี่ยวกับการหยุดเรียนของโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยและปัญหาที่เกิดขึ้นในการศึกษาของระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกา โฆษกระบุว่า เป้าหมายในการปลุกระดมให้หยุดเรียนของผู้ประท้วงที่ว่าฮ่องกงจะต้องเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่และหัวรุนแรงบางราย คือจะนำการต่อสู้เข้าไปโรงเรียนและขยายให้มีการหยุดทำงานหยุดการค้าขายที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ความวุ่นวายยืดเยื้อและขยายตัวต่อไป ในวงการการศึกษาบางคนกระจายแนวคิดความรุนแรงความเกลียดชัง ปลุกระดมการหยุดเรียนด้วยอำนาจที่มีอยู่ ทำให้เด็กๆ เหล่านี้กลายเป็นเครื่องมือของกิจกรรมความรุนแรงซึ่งการกระทำแบบนี้ได้เสียจรรยาบรรณของความเป็นครูอย่างร้ายแรงและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ส่วนคำถามที่เกี่ยวกับรัฐบาลกลางจะใช้กองทัพประจำฮ่องกงและตำรวจติดอาวุธตามกฎหมายพื้นฐานฮ่องกงหรือไม่ โฆษกระบุว่า ตามกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงเขตปกครองพิเศษและกฎหมายกองทัพประจำ หน้าที่ของกองทัพปลดแอกประชาชนประจำฮ่องกงคือปกป้องรักษาอธิปไตย ความมั่นคง บูรณภาพแห่งดินแดนของชาติและความมั่นคงของฮ่องกง ตามข้อกำหนด มาตรา 14 และมาตรา 18 ของกฎหมายพื้นฐานของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในภาวะฉุกเฉินสามารถบังคับใช้กฎหมายแห่งชาติหากมีเหตุจำเป็น โฆษกโต้แย้งกับความคิดที่ว่าการใช้กองทัพประจำหมายถึงยุค “หนึ่งประเทศสองระบบ” จะสิ้นสุด และเน้นว่าไม่ว่ารัฐบาลกลางใช้กองกำลังไปสนับสนุนภารกิจในการรักษาความมั่นคงหรือกู้ภัยตามความต้องการของรัฐบาลเขตปกครองพิเศษ หรือคณะกรรมการสภาผู้แทนประชาชน หากเขตปกครองพิเศษมีภาวะฉุกเฉิน ก็เป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายพื้นฐานภายใต้กรอบ “หนึ่งประเทศสองระบบ”และเป็นส่วนประกอบของระเบียบธรรมนูญเขตปกครองพิเศษ
ส่วนคำถามที่ว่า การสร้างเขตสาธิตเศรษฐกิจระบบตลาดสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีนที่นครเซินเจิ้นมุ่งหมายที่จะแทนที่ฮ่องกงหรือไม่ โฆษกระบุว่า ข้อตกลงในการสร้างเขตสาธิตเศรษฐกิจระบบตลาดสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีนที่นครเซินเจิ้นนั้นเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ในขณะที่ระบอบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีนก้าวเข้าสู่สมัยใหม่จะพัฒนาการปฏิรูปและเปิดประเทศในจุดเริ่มต้นใหม่และมีระดับที่สูงขึ้น และสู่การปฏิรูปที่ลึกซึ้งและสมบูรณ์ อีกทั้งจะขยายการเปิดประเทศกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งมาตราการเหล่านี้จะมีผลประโยชน์ต่อการผลักดันการสร้างสรรค์อ่าวกวางตุ้ง -ฮ่องกง-มาเก๊า GBA และการปฏิบัติหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” อย่างสมบูรณ์ โฆษกยกตัวอย่างอธิบายมาตราการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการรักษาความเจริญมั่นคงอย่างยาวนานของฮ่องกง และเน้นว่ารัฐบาลกลางยินดีต้อนรับฮ่องกงและมาเก๊าเข้าร่วมแผนการพัฒนาแห่งชาติและแสดงบทบาทพิเศษและจุดแข็งที่ไม่สามารถจะถูกแทนที่ได้ ขณะเดียวกันโฆษกระบุว่า ทางฮ่องกงก็ต้องพยายามพัฒนาและคว้าโอกาศนี้ไว้ ฮ่องกงจะอยู่รอดไม่ได้ถ้ามีการต่อสู้ภายใน การพัฒนาเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ของฮ่องกงต่างหาก
ส่วนคำถามที่เกี่ยวกับความคิดเห็นของทรัมป์เชื่อมโยงสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐกับสถานการณ์ในฮ่องกงและแถลงการณ์ของการประชุมสุดยอด G7 โฆษกระบุว่า ฮ่องกงเป็นเขตปกครองท้องถิ่นของจีน กิจกรรมฮ่องกงเป็นกิจกรรมภายในและไม่อนุญาตให้มีการแทรกแซงจากประเทศใดๆ นักการเมืองตะวันตกบางคนบิดเบือนความจริงและว่ากล่าวคำพูดแบบไร้ความรับผิดชอบ ให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้ายบางรายและสร้างปัญหาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะได้ผลประโยชน์ในการทำลายความเป็นระเบียบของฮ่องกงและสร้างปัญหาให้กับจีน โฆษกเตือนว่าการเล่นกลอุบายแบบนี้เคยสำเร็จในที่อื่นและทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ความไม่เป็นระเบียบ แต่ในฮ่องกง ในแผ่นดินจีน กลอุบายเช่นนี้จะไม่มีวันสำเร็จแน่นอน