2019-10-02 13:56CRI
บ่ายวันที่ 29 กันยายน 2562 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะสื่อมวลชนจีน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานสัมภาษณ์ เนื่องในโอกาสทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ “รัฐมิตรภรณ์” และทรงร่วมงานเฉลิมฉลอง 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เรือนรับรองเตี้ยวอี๋ว์ไถ ในกรุงปักกิ่ง
โอกาสนี้ นายเหลย เต๋อซิน เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุซีอาร์ไอ ในเครือไชน่ามีเดียกรุ๊ป กราบบังคมทูลถาม กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถึงความรู้สึกในการเสด็จฯ ร่วมงานเฉลิมฉลอง 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
พระองค์ทรงตอบว่า รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางคนจีนและมิตรของชาวจีน พวกเราทุกคนที่มาเป็นคนที่ชอบประเทศจีน ชอบคนจีน
“พวกเรา 6 คน ที่ได้รับรางวัลคราวนี้ รู้สึกเป็นเกียรติ แต่ว่าก็กังวลที่เขาให้เป็นคนกล่าวแทนคนทั้ง 6 คน ก็ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายนี้ จะพอใจกับสิ่งที่พูดหรือเปล่า แต่เท่าที่คุยกับท่านทั้งหลายหลังจากที่พูดแล้ว ท่านก็บอกว่า พอใจ ก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติและเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะว่าคงจะไม่ใช่บ่อยครั้งที่ได้รับเกียรติอย่างนี้”
เมื่อกราบบังคมทูลถามถึงความรู้สึก เมื่อทรงทราบว่าได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ “รัฐมิตรภรณ์” กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตรัสว่า ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งใจมากที่รัฐบาลจีนนึกถึงข้าพเจ้า เพราะที่จริงแล้ว ผู้มีคุณูปการต่อประเทศจีนมีจำนวนมาก ข้าพเจ้าเป็นบุคคลโชคดีที่มีโอกาสเดินทางมายังประเทศจีนและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ดังนั้น จึงเป็นความยินดีและความภูมิใจของข้าพเจ้าที่ได้รับเหรียญรางวัลนี้
เมื่อกราบบังคมทูลถามถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา จากการที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนหลายครั้ง โดยทรงเป็นประจักษ์ พยานถึงการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตอบว่า
“ข้าพเจ้าคิดว่า เกิดจากประชาชนจีน จากการสังเกตของข้าพเจ้า ชาวจีนชอบศึกษา เรียนรู้ เพิ่มเติม และทำงานหนัก ข้าพเจ้าคิดว่า ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้จีนเจริญรุ่งเรืองและเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ แม้ข้าพเจ้ามีโอกาสเยือนจีนในช่วงเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 จนถึงปัจจุบัน แต่จีนก็ เปลี่ยนไปมาก การมีผู้นำที่ดีรวมไปถึงคุณภาพของประชาชนชาวจีน ที่ขยัน ทำงานหนัก ฉลาด รวม เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้จีนเป็นอย่างทุกวันนี้ได้”
เมื่อกราบบังคมทูลถามถึงความประทับใจตลอดระยะเวลาการทรงงานด้านการส่งเสริม ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทย-จีน กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัส ว่า
“ตอนนี้ ข้าพเจ้ารู้จักคนจีนหลายรุ่น ‘เติ้งอิ่งเชา’ บอกว่า ให้ข้าพเจ้าเรียกเธอว่า ‘ต้าเจี่ย’ (พี่สาวคนโต) แต่ความจริง คือ เธออาวุโสกว่าข้าพเจ้ามาก ข้าพเจ้าควรเรียกเธอว่า ‘หน่ายนาย’ หรือ คุณยาย แต่เธอบอกข้าพเจ้าให้เรียกเธอว่า พี่สาว เพื่อที่จะพูดคุยแล้วรู้สึกใกล้ชิด ทีแรก เธอเรียก ข้าพเจ้าว่า ‘เจี่ยเจีย’ (พี่สาว) สำหรับลูก ๆ ให้เรียกข้าพเจ้าว่า ‘กูกู่’ (อา) แต่ตอนนี้ เรียกเป็น ‘หน่าย นาย’ (ย่า) ดังนั้น ข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าเยือนจีนมาเป็นเวลานาน มีเพื่อนมากมายหลายรุ่น และนี่คือ จุดที่มีความสุขมากที่สุด”
ต่อจากนั้น นางหลิว หรง เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุซีอาร์ไอ กราบบังคมทูล ขอพระราชทาน คำแนะนำในการจัดรายการ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้บทบาทของสถานีวิทยุซีอาร์ไอสอดคล้องกับ การสานสัมพันธ์ไทย-จีนให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานคำแนะนำว่า ชอบที่ พยายามหาเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน วัฒนธรรมจีน และประชาชนจีน พร้อมกับอยากให้นำเสนอ ความก้าวหน้าทางวิชาการและการประดิษฐ์คิดค้นให้มาก
“เวลาสอนภาษาจีน อยากให้หาคนที่พูดภาษาจีนชัด ๆ ... คนไทยที่อยู่เมืองไทยถ้าฟังรายการจะได้เรียนภาษาจีน”
ต่อจากนั้น กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรวิดีทัศน์อดีตพระอาจารย์ถวายพระอักษรจีน 8 ท่าน ร่วมกันร้องเพลงที่พระองค์ทรงโปรด พระองค์ทอดพระเนตรการร้องเพลง “ซือเนี่ยน” หรือ “คิดถึง” พร้อมทรงร้องตามไปด้วย จากนั้นจึงตรัสว่า
“ชอบมาก ... ดีที่รวบรวมครูจีนได้และร้องเพลงร่วมกัน ปกติไม่ค่อยได้ยินท่านร้องเพลงเป็นเพลงหมู่ แต่ว่าก็มีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง อาจารย์หาน สอนเพลงจีนและท่านชอบร้องเพลงจีน เสียงดีมาก และอาจจะสอนท่านอื่น ๆ เพราะว่าคงต้องมีการซ้อมกัน เพราะร้องได้พร้อมกัน”
ภายหลังพระราชทานสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุซีอาร์ไอ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึก