หมู่บ้านหงชุนเป็นหมู่บ้านที่มีธรรมชาติสวยงามเหมือนภาพวาด ณ มณฑลอันฮุย ก่อตั้งขึ้นต้นราชวงศ์ซ่งใต้ ถึงปัจจุบันนี้มีประวัติศาสตร์กว่า 870 ปีแล้ว  ตระกูลวังเป็นผู้ก่อตั้งหมู่บ้านหงชุนขึ้น โดยอพยพมาจากหมู่บ้านเดิมเนื่องจากเกิดอัคคีภัย จึงออกเดินทางและมาสร้างบ้านเรือนสิบสามหลังที่บริเวณเขาเหลยกัง และกลายเป็นหมู่บ้านหงชุนที่แสนงามแห่งนี้ ซึ่งลักษณะเด่นของหมู่บ้านหงชุน คือ มีการวางผังเหมือนรูปวัวในสวนดอกท้อ แดนสวรรค์ในนิยายจีนโบราณ 

เมื่อเดินไปตามซอยเล็กๆ ลอดผ่านประตูโค้งรูปพัดออกไป จะรู้สึกราวกับมาถึงโลกใหม่แห่งหนึ่ง  สิ่งแรกที่ปรากฏบนม่านตาคือเวิ้งน้ำทะเลสาบที่นิ่งเรียบราวแผ่นกระจก  ที่นี่คือ “ทะเลสาบหนานหู”  ใจกลางหมู่บ้านหงชุนที่เปรียบได้กับ “ท้องวัว” 

ทะเลสาบหนานหู สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง  สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่กักเก็บน้ำของชาวบ้านในสมัยโบราณ  ลักษณะทะเลสาบเป็นทรงครึ่งวงกลม  ริมเขื่อนปลูกต้นไม้โบราณ  และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว  จะไม่มีภาพความเขียวสดของต้นไม้ที่เคยเห็น  กลายเป็นกิ่งแห้งต่างๆ ที่มีลักษณะเหมือนกระดูกที่แกร่งกล้าแทนที่ 

ใจกลางทะเลสาบหนานหูจะมีสะพานเล็กๆ  ภาพสะท้อนบนผิวน้ำ  จึงเห็นสะพานโค้งดูเหมือนพระจันทร์เสี้ยวจมอยู่ในน้ำ ซึ่งภาพสะพานแห่งนี้เป็นฉากขณะที่ “หลี่มู่ไป๋” ซึ่งแสดงโดย “โจวเหวินฟะ” จูงม้าผ่านในภาพยนตร์เรื่อง “พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก”

ช่วงพลบค่ำ เมื่อเดินมาถึงใจกลางหมู่บ้านอันเปรียบได้กับส่วน “กระเพาะวัว”    จะมีระบบน้ำของหมู่บ้านที่เรียกว่า “เย่ว์เจา” ซึ่งมีประวัติศาสตร์การก่อสร้างเก่าแก่กว่าหนานหู จึงเป็นระบบน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของหมู่บ้าน ดูงดงามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ  ที่ถูกโอบล้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างโบราณแห่งสถาปัตยกรรมอันฮุย 

และเมื่อราตรีมาเยือน  ภูเขาที่อยู่ไกลออกไปพากันหลบซ่อนตัว  แสงจากโคมไฟสว่างไสวขึ้น  ความเงียบสงบยามราตรีของหมู่บ้านหงชุนกลับไม่ขาดแสงสี  แสงโคมไฟได้ส่องสว่างกำแพงหัวม้าที่ขาวสะอาด พร้อมกับส่องสว่างจิตใจของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน

ทุกวันยามเช้าตรู่  ริมน้ำเย่ว์เจาจะมีแม่บ้านนำเสื้อผ้ามาซักด้วยการใช้ไม้ตีแบบโบราณ เสียงตีผ้าดังสะท้อนทั่วบริเวณและสะท้อนก้องไปยังภูเขาที่ไกลออกไป วิธีการซักผ้านี้ดูโบราณคร่ำครึในยุคที่เทคโนโลยีก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในทุกวันนี้ แต่ความผูกพันเชื่อมต่อกับธรรมชาติแบบนี้ ชาวบ้านหงชุนกลับไม่ยอมละทิ้ง  จึงเป็นภาพวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่ปรากฏให้เห็นได้ที่นี่

“หมู่บ้านหงชุน” จึงได้ชื่อว่าเป็นแดนสุขาวดีประจำใจของชาวจีนหลายๆคน ยามที่ใครเบื่อหน่ายชีวิตในเมืองที่เร่งรีบ ก็จะพากันคิดถึงหมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านหงชุนจึงเป็นตัวแทนสถานที่ซึ่งมนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เป็นที่ซึ่งหลายคนปักหมุดไว้ และหาโอกาสมาเยือนได้ไม่ขาดสาย