วันที่ 14 ธันวาคม สมาคมส่งเสริมการรวมจีนเป็นเอกภาพอย่างสันติของตุรกีประกาศแถลงการณ์ ประณามรัฐสภาสหรัฐฯผ่าน “รัฐบัญญัตินโยบายสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ 2019”  และเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีน

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ซินเจียงเป็นเขตที่รวมหลายชนเผ่าและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่แยกออกจากจีนไม่ได้ ตั้งแต่จีนใหม่สถาปนาขึ้นมา โดยเฉพาะสมัชชา 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เศรษฐกิจ สังคมและกิจการสิทธิมนุษยชนของซินเจียงได้รับผลงานอันยิ่งใหญ่ แต่สหรัฐฯ กลับโจมตีสภาพสิทธิมนุษยชนของซินเจียงโดยมีเจตนามุ่งร้าย บิดเบือนความจริง  เพื่อใส่ร้ายความพยายามของจีนในการกำจัดความรุนแรงและปราบปรามการก่อการร้าย ประณามรัฐบาลจีนที่ใช้นโยบายปกครองซินเจียงตามกฎหมายอย่างไม่มีมูล เข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างเปิดเผย

แถลงการณ์ยังเน้นว่า การก่อการร้าย ลัทธิสุดโต่งเป็นศัตรูของสังคมมนุษย์ ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ภายในดินแดนจีนได้เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายอย่างรุนแรงหลายครั้ง ทำให้ประชาชนที่ไม่มีความผิดจำนวนมากถูกทำร้าย ตำรวจหลายร้อยนายสละชีพในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สร้างความเสียหายทางทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้ เฉพาะเหตุการณ์ “วันที่ 5 กรกฎาคม”  ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิต 197 ราย ซึ่งเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยชนอย่างร้ายแรง  เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่งรัฐบาลจีนใช้มาตรการตามกฎหมายและกฎข้อบังคับ จัดการการก่อการร้าย และปฏิบัติให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพ ดำเนินงานฝึกอบรมทางวิชาชีพ จัดการสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้เกิดการแพร่กระจายการก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่ง ประกันสิทธิพื้นฐาน รวมถึงการอยู่รอด สิทธิการรักษาสุขภาพและสิทธิการพัฒนาของประชาชนเผ่าต่างๆ ในเขตซินเจียง ซึ่งได้ผลอย่างชัดเจนในการปราบปรามการก่อการร้ายและกำจัดลัทธิสุดโต่ง เป็นประสบการณ์ที่เป็นคุณต่อกิจการการปราบปรามการก่อการร้ายของโลก

Bo/LR/Dan