2020-01-16 09:26CRI
เมื่อวันที่ 15 ม.ค 63 ที่กรุงวอชิงตัน นายหลิว เห้อ หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาทางเศรษฐกิจจีน-อเมริกาและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ลงนามในข้อตกลงทางเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่า ในที่สุด การเจรจาทางเศรษฐกิจการค้าระดับสูงทั้งหมด 13 รอบที่ยืดเป็นเวลา 23 เดือนสิ้นสุดลงจนได้โดยบรรลุการ “หยุดสงคราม”ที่เป็นระยะๆ และสองประเทศได้เดินก้าวสู่การแก้ไขความขัดแย้งทางเศรฐกิจการค้าไปก้าวหนึ่งอย่างแท้จริง ข้อตกลงรายนี้ สอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมของจีน สหรัฐอเมริกาจนกระทั่งทั่วโลก ซึ่งจำนำสันติภาพและความเจริญให้กับทั่วโลก
ข้อตกลงระยะแรกนั้นรวมมาตรา 9 มาตราด้วยกัน รวมถึงสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา การซื้อขายเทคโนโลยี อาหารและผลิตผลเกษตร การบริการทางการเงิน อัตราแลกเปลี่ยเงินและความโปร่งใส การขยายปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศ การประเมินค่าระหว่างสองประเทศ การแก้ไขความขัดแย้งกันเป็นต้น จุดสำคัญที่จีนยืนหยัด 3 จุด (ได้แก่ ยกเลิกภาษีศุลกากรที่เพิ่มเก็บทั้งปวง ปริมาณการซื้อขายต้องสมเหตุสมผล แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาข้อตกลงให้มีความสมดุลย์มากยิ่งขึ้น) และหลักการที่จีนยืนหยัด 2 ข้อ(ได้แก่กฎกฏิกาขององค์การการค้าโลก หลักการตลาด)ล้วนถูกเรียบเรียงไว้อยู่ในข้อตกลงทั้งหมด ขณะเดียวกัน ความปรารถนาสำคัญของฝ่ายสหรัฐอเมริกาก็ได้รับการตอบสนองทางบวกเช่นกัน
ข้อตกลงมีเอกลักษณ์สองข้อได้แก่ สมดุลย์และเสมอภาค อำนวยผลประโยชน์แก่กันและได้รับผลประโยชน์ด้วยกัน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติ เนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินค่าและการแก้ไขความขัดแย้งที่ข้อตกลงระบุว่า ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืนกับข้อตกลงก็ตาม ก็ต้องได้รับการลงโทษตามที่กำหนดไว้
การลงนามในข้อตกลงระยะแรกนั้น แสดงให้เห็นว่า จีนและสหรัฐอเมริกาสามารถแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจการค้าด้วยการเจรจาที่เสมอภาคได้ ซึ่งได้เพิ่มความมั่นใจที่ประชาชนทั่วโลกมีต่อการแก้ไขปัญหาระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น จีน สหรัฐอเมริกาสองประเทศ ร่วมมือกัน ก็จะได้รับผลประโยชน์ด้วยกัน แต่หากต่อสู้กัน ก็จะเสียหายด้วยกัน การนี้ ถือว่าเป็นหลักการที่ได้รับการพิสูจน์ด้วยประวัติศาตร์และความจริงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั่งเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องจำไว้ให้ขึ้นใจขณะต้องแก้ไขความขัดแย้กัน
Dan/Tim