บทวิเคราะห์: แผนโลกาภิวัตน์ของจีนได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์แก่ทั่วโลก

สัปดาห์หน้า การประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลก ปี 2020 จะจัดขึ้นที่เมืองดาวอส ของสวิสเซอร์แลนด์ ภายใต้หัวข้อ “รวมพลังทั่วโลก บรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หลายปีมานี้ ประชาคมโลกมีความขัดแย้งเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจนับวันยิ่งมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถแก้ไขความท้าทายทางการพัฒนาของโลก เช่น การขจัดความยากจน การไม่มีงานทำ และทำให้ช่องว่างด้านรายได้กว้างยิ่งขึ้น เป็นต้น ภายหลังวิกฤตการเงิน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวบ้าง แต่ “เค้ก” ของการพัฒนายังไม่สามารถทำให้ใหญ่ขึ้นได้ง่าย การแข่งขันระหว่างประเทศจึงนับวันยิ่งรุนแรงขึ้น

มีบางประเทศทำลายกฎกติกาทางการค้าเสรี ยั่วยุให้เกิดการปะทะกันทางการค้า ทำลายระเบียบเศรษฐกิจโลกอย่างร้ายแรง ปี 2019  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจลง 4 ครั้ง จนเหลือเพียง 3% เท่านั้น ในขณะที่ องค์การการค้าโลก ระบุว่า เนื่องจากหลายประเทศใช้มาตรการกีดกันการค้า ทำให้ปี  2019 ทั่วโลกมีปริมาณการส่งออกลดลงเป็น 747,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

เมื่อต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่แน่นอนซึ่งนับวันยิ่งมากขึ้น โลกาภิวัตน์จะพัฒนาไปทางไหน? นายสี จิ้นผิง ได้ให้คำตอบของจีน ในการประชุมที่ดาวอส ในปี 2017 ว่า “กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจนั้นเป็นความต้องการที่แน่นอนในการพัฒนาผลผลิตของสังคมและการพัฒนาก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” “การเอาปัญหาที่รบกวนโลกไปโทษกระแสโลกาภิวัตน์นั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาด้วย”

บนพื้นฐานแนวคิดเช่นนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จีนจึงยืนหยัดพัฒนาเศรษฐกิจแบบเปิดกว้างมาโดยตลอด ภายใต้สถานการณ์ที่ลัทธิลำพังฝ่ายเดียวและลัทธิอนุรักษ์นิยมกำลังฟื้นตัว การแบ่งปันโอกาสและผลประโยชน์แก่ประเทศอื่นด้วยการเปิดประเทศ เพื่อบรรลุการเอื้อผลประโยชน์และได้รับประโยชน์ร่วมกัน เช่น จีนจัดงานมหกรรมสินค้านำเข้าสองครั้งอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการลงทุนจากต่างชาติ และลดคุณสมบัติของทุนต่างชาติที่จะเข้าสู่ตลาดจีนให้ต่ำลงเรื่อย ๆ  มาตรการการเปิดประเทศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า จีนเป็นผู้พิทักษ์กระแสโลกาภิวัตน์อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ปี 2018 การเติบโตของจีนครองสัดส่วน  27.5% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก อีกทั้งยังครองฐานะ “เครื่องจักรขับคลื่นการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกอันดับ 1” เป็นเวลาหลายปีอีกด้วย

Dan/Tim