ปธน.จีนร่วมพิธีเปิดงานฉลอง 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและปีแห่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน-เมียนมา

2020-01-18 17:30CRI

ค่ำวันที่ 17 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และปีแห่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน-เมียนมา ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติแห่งที่ 2 ในกรุงเนปีดอของเมียนมา นายวิน มินต์ ประธานาธิบดีเมียนมา นางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ นายมินต์ ส่วย รองประธานาธิบดีคนที่หนึ่ง นายเฮนรี่ บันทียู รองประธานาธิบดีคนที่สอง นายที คุน เมียต ประธานรัฐสภาและสภาประชาชน นายอู มัน วิน เคียง ถัน ประธานรัฐสภา พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพป้องกันประเทศ และสมาชิกคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

นายวิน มินต์ และนางอองซาน ซูจี ต่างกล่าวปราศรัย โดย  นายวิน มินต์ กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างเมียนมา-จีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประชาชนสองประเทศมีความใกล้ชิดฉันพี่น้อง ในช่วง 70 ปีนับตั้งแต่เมียนมาและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา  ได้เดินผ่านกระบวนการที่ไม่ธรรมดา ผู้นำสองประเทศได้กระชับความสัมพันธ์และไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น หลักการ 5 ประการ แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้กลายเป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางเยือนเมียนมาอย่างเป็นทางการในวาระครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมียนมา-จีนนั้น ย่อมเป็นหมุดหมายที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์เมียนมา-จีนในปี 2020 ทั้งนี้ เมียนมาจะมุ่งส่งเสริมความร่วมมือฉันมิตรระหว่างเมียนมา-จีนในด้านต่าง ๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ด้านนางอองซานซูจี กล่าวว่า การที่ผู้นำเมียนมาและจีนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว เป็นวารดิถีอันเป็นสิริมงคล ไม่ว่าสถานการณ์ภายในประเทศของเมียนมาจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร รัฐบาลทุกสมัยของเมียนมาล้วนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน สนับสนุนและยินดีมีส่วนร่วมในข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” พร้อมกับหวังว่า การสร้างสรรค์ระเบียงเศรษฐกิจเมียนมา-จีน จะประสบผลสำเร็จมากขึ้น อีกทั้งยังเชื่อว่า การพัฒนาของจีนจะกลายเป็นโอกาสที่ใหญ่ขึ้นสำหรับเมียนมาตลอดจนทั่วโลก ทั้งนี้ เราหวังว่าจะร่วมกับจีนและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ตลอดจนสร้างคุณูปการต่อการส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลก

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า การผลักดันความสัมพันธ์จีน-เมียนมาในยุคใหม่ ต้องรับช่วงต่อจากอดีตและบุกเบิกอนาคต รักษาความเป็นธรรมและนวัตกรรม  ตัวเขาเองและประธานนาธิบดีวิน มินต์  เห็นพ้องต้องกันว่า จะสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-เมียนมา โดยอาศัยหลักการ 5 ประการ แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งจีน-เมียนมาร่วมกันริเริ่มขึ้น เพื่อเป็นนวัตกรรมสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนในช่วงร้อยปี ประชาคมโลกนับวันยิ่งกลายเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน อย่างไรก็ตามความไม่เป็นธรรมและความไม่เสมอภาคในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังคงมีให้เห็นอย่างเด่นชัด การรักษาสันติภาพโลก ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน ยังคงต้องเดินหน้าต่อไปอย่างยากลำบาก ภายใต้สถานการณ์ใหม่  หลักการ 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่เพียงแต่นำสมัย  หากมีจะความยั่งยืน ทั้งนี้ จีนยินดีร่วมมือกับเมียนมา เป็นตัวอย่างของการเชิดชูและปฏิบัติตามหลักการ 5 ประการ เป็นแบบอย่างของการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศ ตลอดจนผลักดันให้ประชาคมโลกร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

Tim/LR/ZDan

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)