บทวิเคราะห์ : ท่าทีที่น่าอัปยศของสหรัฐฯ ขัดขวางความร่วมมือระหว่างประเทศป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

图片默认标题_fororder_微信图片_20200206160212

ขณะนี้ ประเทศจีนกำลังพยายามต่อสู้กับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แบบแข่งกับเวลา ซึ่งประชาคมโลกก็ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ องค์การอนามัยโลกประกาศให้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก" และเน้นว่า คำประกาศดังกล่าวเพื่อรณรงค์ให้เกิดการรวบรวมทรัพยากรทั่วโลก ร่วมกันรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส และให้ความช่วยเหลือกับประเทศที่มีระบบอนามัยที่อ่อนแอและศักยภาพด้านสาธาณสุขที่ไม่ดีพอ

แต่ทว่า ในฐานะประเทศที่พัฒนาแล้วและมีศักยภาพการรักษาพยาบาลที่อยู่ระดับแนวหน้าของโลก จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือที่แท้จริงกับจีน หากยังเป็นประเทศแรกที่อพยพบุคลากรออกจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองอู่ฮั่น เป็นประเทศแรกที่เริ่มอพยพบุคลากรออกจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง เป็นประเทศแรกที่ประกาศใช้มาตรการจำกัดการเข้าเมืองสำหรับชาวจีน สร้างและโหมกระพือความตื่นตระหนกในสังคม โดยพฤติกรรมที่น่าอัปยศเหล่านี้ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ มีปฏิกิริยาเกินควรต่อการแพร่ระบาดของโรคครั้งนี้ ไม่เพี่ยงแต่ขัดต่อข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก หากยังขัดขวางความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ไวรัสไม่มีพรมแดน การเอาชนะสงครามต่อสู้กับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทุกประเทศต้องมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นร่วมมือกัน โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์ องค์การอนามัยโลกประกาศว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังไม่ลุกลามอย่างรุนแรง จนถึงปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อของจีนส่วนใหญ่มาจากมณฑลหูเป่ย ส่วนอีก 20 กว่าประเทศที่รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อแล้วก็มีต้นทางจากมณฑลหูเป่ยเช่นกัน โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ประเทศอื่นๆ ตรวจพบผู้ติดเชื้อโดยเร็วและกักตัวไว้เพื่อทำการรักษา นอกจากนี้ งานปราบปรามข่าวลือและข่าวปลอมเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังมีความสำคัญยิ่ง

อนึ่ง หลายวันมานี้ จีนไม่ได้ต่อสู้กับไวรัสโดยลำพัง การสนับสนุนช่วยเหลือ ความไว้วางใจและความร่วมมือจากทั่วโลก ได้เพิ่มพูนความเชื่อมั่นและกำลังของจีนในการเอาชนะสงครามต่อสู้กับไวรัส ซึ่งนายไมเคิล ชูแมนน์ นายกสมาคมการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีกล่าวว่า ถ้าหากเรามีความเห็นอกเห็นใจกัน ความตื่นตระหนกก็จะถดถอยไป และถ้าหากไม่มีมนุษยธรรมเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสแล้ว สิ่งที่พวกเราจะพ่ายแพ้ย่อมไม่ใช่เพียงสงครามต่อสู้กับไวรัสเท่านั้น

(Yim/Cui/Zi)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)