ช่วงตรุษจีนปี 2020 เป็นช่วงเวลาที่พิเศษแตกต่างไปจากปีก่อนๆ อย่างมากสำหรับประเทศจีน ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถลืมในอนาคต เพราะพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศไม่มีกิจกรรมฉลองตรุษจีน สถานที่ท่องเที่ยวปิดหมด ประชาชนไม่ออกนอกบ้าน ไม่พบเพื่อน ไม่ไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทุกคนติดตามข่าวทุกวัน ทุกคนสนใจเพียงเรื่องเดียว คือสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

โรคระบาดดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นของมณฑลหูเป่ย โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า อาจมีที่มาจากตลาดอาหารทะเลหวาหนานของเมืองอู่ฮั่น และต่อมาได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีน รวมทั้งหลายประเทศ เมืองอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ของมณฑลหูเป่ยก็แน่นอนว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงมากที่สุดของโลก

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนวันตรุษจีน เมืองอู่ฮั่นเริ่มใช้มาตรการหลายด้านอย่างเร่งด่วน โดยได้ประกาศ “ปิดเมือง” และหยุดระบบขนส่งมวลชนสาธารณะทั้งหมด ทั้งภายในเมืองอย่างรถเมล์ รถไฟใต้ดิน รวมถึงระหว่างเมืองอย่างรถไฟและเครื่องบิน กำหนดให้ประชาชนไม่สามารถเข้าออกเมืองได้ตามปกติ เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดสู่ภายนอกมากขึ้น ต่อมา เมืองเอ้อโจว เมืองเซียนเถา เมืองจือเจียง เมืองเฉียนเจียง เมืองหวงกังและเมืองชื่อปี้ของมณฑลหูเป่ยก็ประกาศปิดเมืองตามเมืองอู่ฮั่น พร้อมยังออกมาตรการว่า ให้ผู้ที่ซื้อตั๋วรถไฟและตั๋วเครื่องบินยกเลิกแผนออกเดินทาง โดยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมคืนตั๋ว ซึ่งมาตรการปิดเมืองทำให้ทั่วประเทศและทั่วโลกตื่นตระหนกตกใจ และทำให้มณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นยิ่งเป็นที่จับตามองของชาวโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นี่เป็นวิธีการขัดขวางการแพร่ระบาดที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ไวรัสระบาดออกไปยังพื้นที่อื่นๆ

นอกจากนี้ เทศบาลก็เรียกร้องให้ประชาชน ถ้าไม่จำเป็น อย่าออกนอกบ้าน ถ้าต้องออกไปก็ต้องใส่หน้ากาก พร้อมได้ปิดรถไฟใต้ดิน รถเมล์และแท็กซี่ พร้อมเสนอให้ช่วงตรุษจีนปีนี้ ประชาชนอย่าไปเยี่ยมพบปะเพื่อน ญาติพี่น้อง อย่าออกไปทานข้าว เพื่อไม่ให้ประชาชนจำนวนมากเดินทางออกมา จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาด

ต่อจากนั้นมา ผู้คนก็เลยสนใจว่า ชีวิตประชาชนอู่ฮั่นเป็นอย่างไร เมื่อปิดเมืองแล้ว อาหารการกินจะต้องมีปัญหา แต่เทศบาลเมืองอู่ฮั่นก็พยายามประกันความต้องการในชีวิตของประชาชนอยู่แล้ว โดยซุปเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมืองไม่ได้ขาดแคลนอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตจะต้องใส่หน้ากาก ถ้าไม่มีทางซุปเปอร์มาร์เก็ตก็จะแจกให้คนละอัน โดยเจ้าหน้าที่ของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ในสังกัดของกลุ่มบริษัทอาลีบาบาชื่อว่า “เหอหม่าเซียนเซิง” แนะนำว่า “เหอหม่าเซียนเซิง” มีแนวคิดที่อยากให้ประชาชนทานผักและอาหารสดทุกวัน จึงได้เพิ่มการสำรองอาหารมากมายในช่วงหยุดยาวตรุษจีนปีนี้ และเมื่อปิดเมืองแล้ว ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กลับมาทำงานเพื่อประกันการขนส่ง

นอกจากนี้ พื้นที่ต่างๆ ของจีนก็ได้บริจาคผักผลไม้และส่งไปยังมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เมืองเฉิงตูของมณฑลเสฉวนได้บริจาคผักและผลไม้กว่า 300 ตันให้กับเมืองอู่ฮั่น, เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ อำเภอหลันหลิงของมณฑลซันตงบริจาคผักกว่า 240 ตันให้กับเมืองหวงกัง ซึ่งก่อนหน้านี้ อำเภอเล็กๆ แห่งนี้ก็ได้บริจาคผักมาสองครั้งแล้ว คิดเป็นน้ำหนักรวม 360 ตัน, เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เมืองฮุ่ยโจวของมณฑลกวางตุ้งก็บริจาคผัก 126.5 ตันให้กับมณฑลหูเป่ย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของสิ่งของและอาหารที่บริจาคจากทั่วประเทศ

อีกทั้งรัฐบาลจีนยังสั่งให้กำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือเมืองอู่ฮั่น ในการขนส่งสิ่งของและอาหารไปโรงพยาบาลและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ อันเนื่องจากว่า ระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมืองปิดไม่ให้บริการแล้ว ด้วยเหตุนี้ ประชาชนในเมืองอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ของมณฑลหูเป่ย จึงยังดำรงชีวิตได้ตามปกติอยู่ ถ้ามีครอบครัวใดที่ไม่สะดวกออกไปซื้ออาหาร ผู้บริหารดูแลชุมชนก็จะจัดส่งตัวแทนไปซื้อหาและนำส่งให้ถึงบ้าน

และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เมืองเสี้ยวก่านของมณฑลหูเป่ยประกาศดำเนินมาตรการควบคุมพิเศษในช่วงต่อสู้กับไวรัสระบาดครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายเมืองในมณฑลหูเป่ยก็ได้ประกาศมาตรการเช่นนี้แล้ว โดยกำหนดว่า ปิดการเข้าออกย่านชุมชนในตัวเมืองทั้งหมด นอกจากรถฆ่าเชื้อป้องกันโรคระบาด รถขนส่งสิ่งของ รถส่งเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาล รถตำรวจ รถดับเพลิง และรถพิเศษอื่นๆ แล้ว จะไม่ให้รถส่วนตัวเข้าออกชุมชน

สำหรับชาวบ้านในเขตชุมชนก็เช่นกัน นอกจากเจ้าหน้าที่ทางการรักษาพยาบาล เจ้าหน้ารับผิดชอบงานป้องกันควบคุมโรคระบาด อาสาสมัครชุมชน พนักงานร้านขายยา และเจ้าหน้าที่วงการประกันชีวิตประจำของประชาชนแล้ว จะไม่ให้ออกนอกบ้าน ทางเข้าออกของชุมชนจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ซื้อสิ่งของจำเป็น ยาและอาหารให้กับชาวบ้าน

ดังนั้น ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาสามารถขายของให้กับเจ้าหน้าที่ซื้อของย่านชุมชนได้เพียงเท่านั้น และผู้ที่เข้าออกชุมชนต้องใส่หน้ากากตลอด รับการลงทะเบียนและตรวจวัดอุณหภูมิ เนื่องเพราะผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจยังไม่มีอาการภายในช่วงเวลา 14 วัน จึงขอให้ชาวบ้านยืนหยัดอยู่บ้าน 14 วันก่อน ป้องกันตัวเอง และไม่ให้ไวรัสแพร่ระบาดสู่ผู้อื่นต่อไปอีก

นอกจากการปิดเมืองแล้ว ทางด้านการรักษาผู้ป่วยก็เป็นสิ่งสำคัญมาก อันเนื่องจากโรงพยาบาลในตัวเมืองมีอุปกรณ์และเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ เทศบาลเมืองอู่ฮั่นจึงสร้างโรงพยาบาลหั่วเสินซานและโรงพยาบาลเหลยเสินซานอย่างเร่งด่วน โดยโรงพยาบาลหั่วเสินซานมี 1,000 เตียง และโรงพยาบาลเหลยเสินซานมี 1,600 เตียง พร้อมได้ปรับเปลี่ยนศูนย์นิทรรศการ สนามกีฬาและอื่นๆ หลายที่เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว เพื่อรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนัก สำหรับผู้ที่สงสัยและผู้ที่เคยมีการติดต่อหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เทศบาลก็จัดให้อยู่ที่โรงแรมก่อน เพื่อรอคอยผลการตรวจสอบ

แม้ว่ามาตรการบางส่วนเข้มงวดไปหน่อย แต่ก็เนื่องจากไวรัสแพร่ระบาดเร็วมาก ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แม้ว่าไม่สะดวกบ้าง แต่ชาวจีน โดยเฉพาะชาวอู่ฮั่นก็เข้าใจและยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของมณฑลหูเป่ยและทั่วประเทศจีนก็กำลังดีขึ้น ธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ ก็เริ่มทำงานตามปกติ เพียงแต่ว่าต้องใส่หน้ากาก เชื่อว่าไม่นาน จีนก็จะผ่านพ้นความยากลำบากครั้งนี้ได้