รักเท่าฟ้า

2020-04-14 20:57CRI

นายแพทย์หวัง เยี่ยนเซิน เป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น ในกรุงปักกิ่ง  แต่ได้เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจีน นำคณะมาช่วยอู่ฮั่นสู้โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 7 เมษายน เป็นเวลากว่า 2 เดือน ก่อนวันเปิดอู่ฮั่นในวันที่ 8 เมษายน เพียงวันเดียวเท่านั้น จึงได้รับคำสั่งว่า ให้เดินทางกลับปักกิ่งได้แล้ว เวลากว่า 60 วันที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น  คุณหมอกับคณะทุ่มเทปฏิบัติงานหามรุ่งหามค่ำ

图片默认标题_fororder_0000

วันที่คุณหมอหวัง เยี่ยนเซินเดินทางไปอู่ฮั่น ลูกชายของเขาเพิ่งเกิดไม่นาน และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คุณหมอหวังได้เขียนจดหมายส่งกลับบ้านถึงลูกชายที่อายุ 100 วัน โดยฝากให้ภรรยาอ่านจดหมายให้ลูกฟังว่า

“ลูกรัก

นี่พ่อนะ พ่อต้องรบกวนแม่ ให้อ่านจดหมายฉบับนี้ให้ลูกฟัง วันนี้ลูกเกิดได้ 100 วันแล้ว พ่ออยากอุ้มอยากกอดลูกมาก  แต่ว่าตอนนี้พ่อกับคุณป้าคุณน้าอีก 150 คนมาอยู่ที่อู่ฮั่น มาช่วยกันกู้ชีวิตผู้ป่วยโควิด  เพื่อชัยชนะของอู่ฮั่น ชัยชนะของหูเป่ย และชัยชนะของประชาชาติจีน

พ่ออยากบอกลูกว่า พ่อไม่ได้อยู่ดูแลลูก พ่อต้องมาทำงานช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชาติและชาวต่างชาติในอู่ฮั่น ที่บางคนเป็นเด็กอายุพอๆกับลูก อู่ฮั่นเป็นแนวหน้าของสนามรบ หากทุกคนคิดถึงแต่ความสุขส่วนตัว ไม่คิดถึงคนอื่น ในท้ายที่สุดแล้วโควิดคงแพร่ระบาดทั่วประเทศจีน และพ่อจะไม่สามารถปกป้องลูกให้ปลอดภัยได้

พ่อกับคณะเป็นทีมงานที่หาญกล้า ทุกคนคิดถึงลูกแต่ไม่มีใครท้อถอย ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำประเทศทันที  เราต้องรบชนะให้ได้ ต้องอดทน เสียสละยอมห่างจากครอบครัวชั่วขณะ เพื่อแลกกับการได้อยู่พร้อมหน้าอย่างถาวร

图片默认标题_fororder_000

ในโอกาสลูกได้ 100 วัน พ่ออยากซื้อของขวัญ แม้จะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นของเล่น เสื้อผ้าหรือว่าอะไร   แต่จากการต่อสู้กับโควิดที่อู่ฮั่น ทำให้พ่ออยากมอบของขวัญที่เป็นสิ่งล้ำค่ากว่าชีวิตให้ลูก นั่นคือ “เจ๋อเริ่น” และ “ตันตัง” ซึ่งก็คือความรับผิดชอบและการแบกรับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง  พ่อเคยต่อสู้กับโรคซาร์ส  และคราวนี้ก็มั่นใจว่า ความรับผิดชอบจะเอาชนะโรคระบาดได้

ลูกรัก ลูกก็ต้องมีความรับผิดชอบ นั่นคือลูกต้องอยู่รอดปลอดภัย และรอพ่อกลับมา  พ่ออยากอุ้มลูก อยากกอดลูกที่สุด    พ่อรักลูกนะ”

คุณหมอหวัง เยี่ยนเซินพร้อมกับคณะไปช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อเดินทางถึงอู่ฮั่น ก็ประจำที่โรงพยาบาลชั่วคราว หลังจากได้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการไม่หนักให้หายดี จนกระทั่งได้ปิดโรงพยาบาลชั่วคราวแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ได้กลับถิ่นฐาน เนื่องจากว่าทีมแพทย์พยาบาลจากกรุงปักกิ่งนั้น ได้ฉายาว่า “ทีมชาติ” สมาชิกทีมแพทย์ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย จึงปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐอย่างจริงจัง จะอยู่จนถึงวันสุดท้ายจึงจะเดินทางกลับ ฉะนั้น ทั้งคณะย้ายไปช่วยรักษาผู้ป่วยอาการหนักในโรงพยาบาลประจำเมืองอู่ฮั่น จนกระทั่งได้รับคำสั่งจากรัฐบาลว่า ให้เดินทางกลับปักกิ่งในบ่ายวันที่ 7 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนวันเปิดเมืองอู่ฮั่น

图片默认标题_fororder_00

ซึ่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน อู่ฮั่นเปิดเมืองแล้ว เป็นข่าวดีสำหรับชาวจีนทุกคนและน่าจะบอกว่า เป็นข่าวดีสำหรับทั่วโลกด้วย จีนใช้มาตรการและปฏิบัติการที่เข้มงวดที่สุด ปิดหนึ่งเมืองเพื่อป้องกันทั่วประเทศ จนสามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดได้ ไม่เพียงทำให้คนจีนทั่วประเทศปลอดภัย  หากยังทำให้การแพร่ระบาดไปทั่วโลกเกิดได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็นด้วย

จากที่เริ่มพบปลายปีที่แล้วจนระบาดหนักในช่วงต้นปี เมืองอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ยเป็นแนวหน้า ชาวอู่ฮั่นร่วมพลังป้องกัน สกัดกั้นการแพร่ระบาด ด้วยความสมัครสมานสามัคคี อดทน หาญกล้า เสียสละ จนสามารถเอาชนะได้ นอกจากบุคลากรทางการแพทย์แล้ว เจ้าหน้าที่ส่งพัสดุด่วน ยามรักษาความปลอดภัยชุมชน อาสาสมัคร ตลอดจนครูอาจารย์ที่ต้องหันมาสอนออนไลน์ และอื่น ๆ  พวกเขาล้วนควรค่าแก่การคารวะเป็นอย่างยิ่ง

Yim/Ping/Ping

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)