เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในการประชุมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า   สหรัฐฯ ตั้งห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาจำนวนมากในประเทศรอบข้างรัสเซียและจีน โดยไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จุดประสงค์ของสหรัฐฯ ในการตั้งห้องปฏิบัติเหล่านี้น่าสงสัย คำพูดดังกล่าวของนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ทำให้ประชาคมโลกเกิดข้อสงสัยและมีข้อกังขาอย่างมากต่อพฤติกรรมดังกล่าวของสหรัฐฯ

ด้านนายนิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซีย เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ มีห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยากว่า 200 แห่ง ในหลายประเทศทั่วโลก ห้องปฏิบัติการบางส่วนเคยเกิดเหตุการณ์ไวรัสรั่วไหลอย่างรุนแรง ทำให้ห้องปฏิบัติการเหล่านี้มีปัญหาด้านความปลอดภัยที่น่าเป็นห่วง 

ห้องปฏิบัติการของสหรัฐฯ ที่กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเหล่านี้กำลังทำการวิจัยอะไร? เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขโลกอย่างไร? สร้างความเสียหายอะไรมาแล้วบ้าง? ผู้มีอำนาจของสหรัฐฯ ต้องออกมาชี้แจงตอบข้อซักถามดังกล่าว

ห้องปฏิบัติการฟอร์ตเดทริก ในรัฐแมริแลนด์ เป็นศูนย์วิจัยอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมีใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ สั่งปิดห้องปฏิบัติการแห่งนี้กะทันหัน แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ  

หลังปิดห้องปฏิบัติการแห่งนั้นไม่นาน ประชาชนจำนวนมากในชุมชนแห่งหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งห่างจากห้องปฏิบัติการราว 50  กิโลเมตร ป่วยเป็นโรคที่มีอาการคล้ายผู้ป่วยโควิด-19 อย่างมาก

ทั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาของสหรัฐฯ กลายเป็นภัยคุกคามของมนุษย์ ภายใต้วิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขโลก ผู้มีอำนาจของสหรัฐฯ ต้องหยุดสร้างข่าวลือ หยุดโกหกผู้อื่น และต้องหันมาเคารพชีวิตของประชาชน โดยออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงให้ชาวโลกทราบทันที     

(tim/cai)