เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์บนโซเชียลมีเดียเผยแพร่จดหมายที่ส่งถึงนายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก โดยมีเนื้อหาคุกคามว่าจะให้องค์การอนามัยโลกดำเนินการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังภายใน 30 วัน มิฉะนั้น สหรัฐฯ จะยกเลิกการสนับสนุนด้านเงินทุนต่อไป และจะพิจารณาถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อกว่าหนึ่งเดือนก่อน สหรัฐฯ เคยกล่าวหาว่า องค์การอนามัยโลกประสบความล้มเหลวในการป้องกันโรคระบาด และหยุดเสนอทุนช่วยเหลือ ซึ่งท่าทีดังกล่าวนี้ เป็นวิธีการปัดความผิดให้พ้นตัวครั้งล่าสุดของนักการเมืองสหรัฐฯ

การปัดความผิดให้พ้นตัวของสหรัฐฯ จีนตกเป็นเป้าหมายที่ถูกกล่าวหามากที่สุด ตั้งแต่เรื่องปกปิดข้อมูล การใช้คำเรียก “ไวรัสอู่ฮั่น” “ไวรัสจีน” การโหมข่าวลือว่าไวรัสมีต้นกำเนิดมาจากห้องทดลองของจีน ตลอดจนฟ้องจีนชดใช้ค่าเสียหาย เป็นต้น ในช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา นักการเมืองสหรัฐฯ ใส่ร้ายจีนไม่หยุดยั้งและพยายามปัดหนีความรับผิดชอบมาโดยตลอด

แต่ข่าวลือย่อมไม่สามารถกลายเป็นจริงขึ้นได้ เมื่อเผชิญกับความจริง กฎหมาย คุณธรรมและวิทยาศาสตร์ นักการเมืองสหรัฐฯ ไม่ได้รับการสนับสนุนและความเห็นชอบจากประชาคมโลก

เมื่อเทียบกับการว่าร้ายไม่พอใจต่างๆของนักการเมืองสหรัฐฯ ในที่ประชุมอนามัยโลก ครั้งที่ 73 ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นลง เลขาธิการสหประชาชาติและผู้นำหลายประเทศ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ต่างแสดงท่าทีที่จะสนับสนุนองค์การอนามัยโลกอย่างแน่วแน่ โดยเน้นว่า ปัจจุบันเป็นวาระที่ต้องการความสามัคคี ไม่ใช่การประณามและทำลายความร่วมมือพหุภาคี นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อองค์การอนามัยโลกด้วย

Yim/Chu/Zi