เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ ผ่าน “กฎหมายนโยบายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนซินเจียงปี 2020” โดยไม่สนใจการทักท้วงของจีน ทำให้นานาประเทศต่างเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง พูดถึงสภาพสิทธิมนุษยชนของซินเจียงในแง่ลบที่เกินความจริง โจมตีนโยบายบริหารเขตปกครองตนเองอุยกุร์ซินเจียงของรัฐบาลจีน และการลงมติผ่านกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรงโดยอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน  เป็นการเหยียดย่ำกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นายเออร์คิน โอนนแคน ( Erkin Öncan) นักข่าวอาวุโสของตุรกีเห็นว่า สหรัฐฯ สร้างปัญหาซินเจียงเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของจีน แต่ที่จริง สหรัฐฯ ได้ทำร้ายและล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมในตะวันออกกลางมาโดยตลอด  

นายฟายาซ กิยานี (Fayaz Kiyani ) นักวิจารณ์การเมืองปากีสถานกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ ก็เพื่อสร้างข้อขัดแย้งภายในประเทศ และขัดขวางการพัฒนาและความมั่นคงของจีน

ดร.คิน เมา โซ (Khin Maung Soe) เลขาธิการสมาคมวิจัยวิชาการเมืองมหาวิทยาลัยมัณฑะเลย์ประเทศพม่ากล่าวว่า สหรัฐ ถือธงสิทธิมนุษยชน ผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงของจีน เป็นการฝ่าฝืนหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ดร.คิน เมา โซเคยเดินทางไปเยือนเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงและเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน เกิดความรู้สึกประทับใจที่รัฐบาลกลางทุ่มเทกำลังสนับสนุนประชาชนท้องถิ่นให้ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุข

นายโมฮัมเหม็ด นูเอมาน จาลัล (Mohammed Nueman Jalal) อดีตเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงไคโรว่า การกระทำของสหรัฐฯ ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างเปิดเผย เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง และเป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยของจีน

นายอังเดร มาโนอีโล ( Andre Manoilo) ศาสตราจารย์ คณะการเมืองมหาวิทยาลัยมอสโกแห่งชาติรัสเซียชี้ให้เห็นว่า ปัญหาซินเจียงไม่ใช่ปัญหาสิทธิมนุษยชน แต่เป็นปัญหาการแบ่งแยกดินแดน และการปราบปรามการก่อการร้าย

(Bo/Lin/Zhou)