เมื่อเร็ว ๆ นี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่าน “ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองตนเองของฮ่องกง” โดยขู่ว่า จะคว่ำบาตรบุคคล สถาบันการเงินและองค์กรอื่น ๆ ที่ทำลายการปกครองฮ่องกง พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างชัดเจน ไม่ให้ความเคารพหลักพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศและหลักพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง สะท้อนให้เห็นถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของนักการเมืองสหรัฐฯ บางคนที่มุ่งต่อต้านจีนและสร้างความวุ่นวายในฮ่องกง ที่ควรถูกประชาคมโลกประณาม

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ภายใต้การวางแผนและเรียกร้องจากกลุ่มอิทธิพลภายนอก กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฮ่องกงและกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงในท้องถิ่น มีการจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นการใช้กำลังโจมตีองค์กรสาธารณะ ทำให้การจราจรต้องหยุดชะงัก ทำลายสิ่งของ อาคารบ้านเรือน ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต เป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์และความปลอดภัยของชาติเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศจีนเองก็ไม่สามารถอยู่เฉยต่อการนี้

ในฐานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ ความเจริญและความมั่นคงของฮ่องกงถูกทำลาย วิสาหกิจของสหรัฐฯ ในฮ่องกงก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย ธุรกิจนำเข้าและส่งออกของสหรัฐฯ ที่ใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์ขนถ่ายก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่นักการเมืองสหรัฐฯ ที่ไม่มีวิสัยทัศน์ทั้งด้านการเมือง ประวัติศาสตร์และความรู้พื้นฐานด้านเศรษฐกิจ ไม่คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ มุ่งเน้นแต่อคติ อุดมการณ์สุดโต่งและผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง หวังที่จะได้กำไรจากการสร้างความวุ่นวายในฮ่องกง

จากที่มูลนิธิ National Endowment Democracy (NED) ของสหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มต่อต้านจีนในฮ่องกงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ พบปะกับกลุ่มต่อต้านและแบ่งแยกดินแดนฮ่องกง ตลอดจนรัฐสภาสหรัฐฯ ผ่าน “ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงปี 2019” “ร่างกฎหมายปกครองตนเองฮ่องกง” นักการเมืองสหรัฐฯ หนุนหลังกลุ่มก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง มุ่งที่จะสร้างความวุ่นวายในฮ่องกง เพื่อหวังผลประโยชน์ และยับยั้งการพัฒนาของจีน

กิจการฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนอย่างที่โฆษกทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงระบุเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า การปฏิบัติตามหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ในขตบริหารพิเศษฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์แทรกแซง โดยนาง Elsie Leung Oi-sie อธิบดีกรมบริหารกฎหมายรุ่นแรกของทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงก็เคยเน้นว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในเขตฮ่องกงจะไม่กระทบต่อ “หนึ่งประเทศสองระบบ”  และไม่กระทบต่อ “คนฮ่องกงบริหารฮ่องกง”ด้วย

(Bo/Cui/Zhou)