“หมู่บ้านอาถู่เลี่ยเอ่อร์” ตั้งอยู่ที่ภูเขาต้าเหลียงซาน มณฑลเสฉวน  การเข้าออกหมู่บ้านจำต้องไต่ขึ้นลงความสูง 800 เมตร และมีช่วงที่เป็นผาชัน 13 แห่ง กลายเป็นที่มาของสมญานามว่า “หมู่บ้านบนหน้าผา”

การทำทางกลายเป็นด่านแรกที่ต้องแก้ให้ตก เพื่อนำพาชาวบ้านพ้นจากความยากจน  เดือนสิงหาคม ปี 2016  จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าอี๋เหลียงซานและอำเภอเจาเจวีย ได้จัดงบ 1 ล้านหยวนซ่อมทำทางใหม่ให้กับหมู่บ้านอาถู่เลี่ยเอ่อร์

“อาอู่มู่หนิว” เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำหมู่บ้านจือเอ่อร์โม่ จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าอี๋เหลียงซาน ได้นำชาวบ้านทำบันไดเหล็ก แทนบันไดไม้ที่ไม่มั่นคง เดือนสิงหาคม ปี 2017  บันไดเหล็ก 2,556 ขั้นได้สำเร็จลง ชาวบ้านมี “ทางด่วน” ของตนแล้ว

เดือนพฤษภาคม ปี 2020  ครอบครัวยากจน 84 ครัวเรือนของหมู่บ้านบนหน้าผา ทยอยกันย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่รัฐจัดให้ ซึ่งหมู่บ้านบนหน้าผานี้จะได้รับการบุกเบิกพัฒนาเป็น “หมู่บ้านเอกลักษณ์ชนเผ่าอี๋”

“หมู่บ้านสือปาต้ง” เป็นพื้นที่ห่างไกลในเขตเขาที่ยากจนเป็นพิเศษ เนื่องจากมาตรฐานความยากจนในชนบทที่รัฐบาลจีนกำหนดคือ รายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ปีละ 2,300 หยวน แต่รายได้ต่อหัวของชาวบ้านเขตยากจนหมู่บ้านนี้ในปี 2013 กลับมีไม่ถึง 1,700 หยวน ซึ่งไม่ถึง 20% ของรายได้เฉลี่ยต่อคนของเกษตรกรทั่วประเทศในปีเดียวกัน 

ที่หมู่บ้านสือปาต้ง นายสี จิ้นผิงมีคำชี้นำว่า “ต้องช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด” เป็นครั้งแรก หลังจากนั้น หมู่บ้านสือปาตงก็ได้รับการพัฒนาธุรกิจหลัก 5 ประการ ได้แก่ เศรษฐกิจบริการแรงงาน ธุรกิจการเพาะปลูก ธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์ การเย็บปักถักร้อยชนเผ่าเหมียว และธุรกิจบริการการท่องเที่ยว ผลจากการพัฒนากิจการเหล่านี้ ถึงปี 2017 ทั้งหมู่บ้านก็ได้หลุดพ้นจากความยากจน และกลายเป็นตัวอย่างการขจัดความยากจนที่ศึกษาได้และน่าเผยแพร่ไปยังพื้นที่อื่นๆ

“หมู่บ้านเฉาถง” ตั้งอยู่อำเภออี้ว์ เมืองจางเจียโข่ว มณฑลเหอเป่ย เป็นตัวอย่างหมู่บ้านที่พ้นจากสภาพยากจนได้แห่งสำคัญของมณฑลเหอเป่ย เมื่อปี 2014 จากจำนวนลูกบ้าน 1,653 คน มี 939 คนขึ้นทะเบียนเป็นผู้ยากจน 

แต่เนื่องจากหมู่บ้านเฉาถงมีความผูกพันกับระบำยังเกอมานานกว่า 100 ปีแล้ว ตั้งแต่ผู้สูงวัยถึงเด็ก ล้วนร้องเพลงยังเกอได้ ซึ่งระบำยังเกอของอำเภออี้ว์ ยังมีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานเพลงพื้นบ้านเข้าไปด้วย ซึ่งเมื่อปี 2008 ได้ถูกจัดเข้าบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติรุ่นที่ 2 ของจีน

ดังนั้น เดือนตุลาคม ปี 2018  ทางการท้องถิ่นร่วมกับคณะช่วยเหลือผู้ยากจนประจำหมู่บ้านทำการจัดตั้งคณะแสดงยังเกอ และทำเป็นบริษัทรับแสดงระบำยังเกอ การช่วยเหลือผู้ยากจนด้วยการแสดงทางวัฒนธรรม ได้กระตุ้นให้ผู้ยากจนมีกำลังใจพัฒนาตนเอง สร้างความหวังใหม่ในการดำเนินชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

“หมู่บ้านเจ้าเจียวา” เป็นพื้นที่ยากจนที่อยู่ห่างไกลในเขตเขาหลู่ว์เหลียง มณฑลซานซี ข้อมูลจากการทำสำรวจแสดงว่า กลุ่มคนที่ตกอยู่ในสภาพยากจนข้นแค้นเนื่องจากเจ็บป่วย คิดเป็น 40% ขึ้นไปของจำนวนผู้ยากจนทั้งหมดในจีน 

ดังนั้น ปธน.สี จิ้นผิงได้เล็งเห็นว่า ต้องเน้นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดกับกลุ่มคนที่ตกอยู่ในสภาพยากแค้นเนื่องจากเจ็บป่วย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่ถึง 20 ล้านคนในปัจจุบัน ภายหลังดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ยากจนด้านสุขภาพแล้ว ถึงปี 2018 ประชากรที่ยากจนเนื่องจากการเจ็บป่วยในจีนได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว 5,810,000 คน 

ปี 2019 สีจิ้นผิงได้กล่าวอวยพรตรุษจีนประชาชนว่า งานบรรเทาความยากจนได้รับผลงานที่น่าพอใจ ทั่วประเทศจีนมีอำเภอยากจน 125 แห่งหลุดพ้นจากความยากจน และมีชาวบ้านในเขตห่างไกลหลุดพ้นจากสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากเป็นจำนวน 10 ล้านคน ระบบประกันสุขภาพได้เพิ่มรายชื่อยาต้านมะเร็งอีก 17 ชนิด สภาพการตกเป็นผู้ยากจนเนื่องจากการเจ็บป่วยได้รับการปรับปรุงดีขึ้น ข้าพเจ้าเป็นห่วงประชาชนที่ยากจนมาโดยตลอด หวังให้ประชาชนทุกคนมีความสุขความเจริญยิ่งขึ้น

และเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา  นายสี จิ้นผิง  ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวระหว่างการประชุมคณะกรรมการวงการเศรษฐกิจของสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ว่า  เชื่อมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายให้ประชาชนยากไร้พ้นจากความยากลำบากในปีนี้ได้สำเร็จ  เพราะเป้าหมายที่เราตั้งไว้ไม่ได้สูงเกินเอื้อม ความหวังของยุคนี้คือ ต้องให้ประชาชนจีน โดยเฉพาะเกษตรกรก้าวร่วมไปบนหนทางแห่งสังคมนิยมด้วยกัน จะขาดใครไปไม่ได้  ต้องมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน