อาวุธพิฆาตหวาเหว่ยลูกล่าสุดของสหรัฐอเมริกา

อาวุธพิฆาตหวาเหว่ยลูกล่าสุดของสหรัฐอเมริกา_fororder_huawei3

เครื่องจักรอียูวี(Extreme Ultraviolet Lithography-EUV)สามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรและ 5 นาโนเมตร ได้ชื่อว่าเป็นมงกุฎของอุตสาหกรรมการผลิตนิวไฮเทค มีเพียงบริษัท ASMLของเนเธอร์แลนด์เพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิตเครื่องจักรนี้ได้ เพราะรวบรวมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลก ประกอบด้วยชิ้นส่วนเกือบ100,000 ชิ้นจากสหรัฐอเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น เป็นต้น

ราคาซื้อขายเครื่องจักรEUVอยู่ที่เครื่องละ 100 ล้านยูโร ราคาไม่แพงแต่ใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้ ต้องเข้าคิว  ปี 2019 บริษัท ASML ขายเครื่องจักรนี้ไป 26 เครื่อง เป็นเงินกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ขายให้บริษัท TSMC เขตไต้หวันของจีน บริษัท Sumsung ของเกาหลีใต้และบริษัท Intelของสหรัฐอเมริกา 

ปัจจุบันมีเพียง TSMC และ Sumsung สองบริษัทนี้เท่านั้นที่สามารถผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรที่ใช้กับ 5G Base Station และสมาร์ทโฟนของตน  แต่ไม่มีโรงงานผลิตชิปเอง ต้องให้TSMC เป็นผู้ผลิตให้

อาวุธพิฆาตหวาเหว่ยลูกล่าสุดของสหรัฐอเมริกา_fororder_huawei2

เดือนพฤษภาคม 2019 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสั่งห้ามขายชิปที่มีเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกาไม่ต่ำกว่า 25%  ผลปรากฏว่าคำสั่งนี้กลายเป็นการโฆษณาให้หวาเหว่ย ทำให้ยอดขายหวาเหว่ยเติบโตขึ้นมาก

เดือนพฤษภาคม 2020    สหรัฐอเมริกาใช้อาวุธพิฆาตหวาเหว่ยลูกล่าสุด ซึ่งก็คือการห้ามขายชิปที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา

16 กรกฎาคม 2020 TSMC ประกาศหยุดผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรและ 5 นาโนเมตรให้หวาเหว่ยตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 เพื่อไม่ขัดต่อข้อบังคับของสหรัฐอเมริกา เพราะการผลิตต้องใช้เครื่องจักรEUVที่มีเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา  ทำให้หวาเหว่ยตกอยู่ในอันตรายที่อาจขาดแคลนชิประดับสูงอย่างมาก

บริษัท SMIC(Semiconductor Manufacturing International Corporation) ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของจีนได้ซื้อเครื่องจักร Lithography machine ที่สามารถผลิตชิปขนาด 14 นาโนเมตรจากบริษัทTSMLของเนเธอร์แลนด์เมื่อหลายปีก่อน  ปี 2018 ได้จ่ายเงินซื้อเครื่องจักร EUV โดยมีเป้าผลิตชิป 7 นาโนเมตร  แต่สหรัฐอเมริกาบีบรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ไม่ให้ขายให้ เนื่องจากบริษัท SMICเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปให้หวาเหว่ย  ทำให้การซื้อขายไม่สำเร็จ

เดือนพฤษภาคม 2018  บริษัท SMIC ประกาศถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา  วันที่ 16 กรกฎาคม 2020 SMIC เข้าตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ มูลค่าราว 3 ล้านล้านบาท เพราะผู้ซื้อหุ้นบริษัทเห็นว่าเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีแห่งชาติจีน

สื่อจีนรายงานว่าตั้งแต่ปีที่แล้วที่สหรัฐอเมริกาเริ่มกระบวนการล้มหวาเหว่ย  ผู้บริหารหวาเห่วยก็ตัดสินใจเพิ่มการสะสมชิประดับสูงและวัสดุการผลิตจำนวนมาก  คาดว่าชิปที่ใช้กับ5G Base Station จะมีเพียงพอสำหรับ 5 ปี ขณะที่ชิปที่ใช้กับสมาร์ทโฟนจะเพียงพอสำหรับ 1-2 ปี

สถิติปรากฏว่าครึ่งแรกปี 2020 หวาเหว่ยจำหน่ายสมาร์ทโฟนระบบ5G รวม 15 ล้านเครื่อง มากเป็นอันดับ 1 ของโลก  ไตรมาสสองปีนี้จำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกรวม 55 ล้านเครื่อง ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าซัมซุงที่ขายได้ 51 ล้านเครื่อง ถ้าคงไว้ซึ่งแนวโน้มนี้ ชิป 7 นาโนเมตรที่หวาเหว่ยสะสมไว้ จะเพียงพอสำหรับ 2ปีหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ

การผลิตชิปเป็นอุตสาหกรรมนิวไฮเทคที่ยากที่สุดในโลก มีหลายขั้นตอนการผลิตที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนมีส่วนร่วมเกือบทุกขั้นตอน อย่างเช่นบริษัทผลิตอุปกรณ์กึ่งตัวนำจงเหวย(AMEC)ที่นครเซึ่ยงไฮ้ได้วิจัยและผลิตเครื่องจักรEtching machine(อุปกรณ์ผลิตชิปที่สำคัญอย่างหนึ่ง) ระดับ 5 นาโนเมตรเป็นผลสำเร็จและทันสมัยที่สุดในโลก  แต่ในด้าน Lithography machine  บริษัทจีนทำได้แค่ในระดับ 50 นาโนเมตรเท่านั้น

บริษัทหวาเหว่ยพยายามแก้ปัญหาด้วยการผลิตชิปเอง โดยเมื่อเดือนก่อนประกาศร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์อังกฤษ สร้างศูนย์วิจัยพัฒนา ผลิตอุปกรณ์และโมดูลนำสื่อข้อมูลเชิงแสงที่ล้ำสุด มุ่งเน้นเทคโนโลยีออปโตอิเล็คทรอนิกส์(Optoelectronics)หรืออิเล็คทรอนิกส์เชิงแสง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ใช้ในกระบวนการสืาอสารผ่านใยแก้วนำแสง ถ้าประสบความสำเร็จจะแซงหน้าในเรื่องชิป

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทหวาเหว่ยประกาศรับสมัครวิศวกรเทคโนโลยีLithography  สื่อจีนวิเคราะห์ว่า การนี้หมายถึงหวาเหว่ยจะมุ่งสู่ IDM คือออกแบบชิปและผลิตชิปเอง

อาวุธพิฆาตหวาเหว่ยลูกล่าสุดของสหรัฐอเมริกา_fororder_huawei1

หากชื่นชอบบทความดังกล่าว อย่าลืมกดไลก์ กดติดตาม และแชร์กับเพื่อน ๆ ค่ะ  ติดตามเนื้อหาสาระล่าสุดที่เฟสบุ๊ค เพจ “ลึกชัดกับผิงผิง” อัปเดตทุกวันค่ะ

https://www.facebook.com/doubleping.china/

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)