เมื่อปีที่แล้ว หมู่บ้านซ่งเจียโกว อำเภอเก๋อแหลน มณฑลซานซีทางภาคเหนือของจีนกลายเป็นหมู่บ้านสำคัญด้านการท่องเที่ยวชนบทแห่งชาติรุ่นแรกของจีน กิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ที่หมุนเวียนกันจัดขึ้น เช่น การสู้แพะ การเต้นระบำยางเกอ และการตีกลอง รวมทั้งก้อนอิฐสีเขียว กระเบื้องสีเทา บ้านไม้กระเบื้องสีเหลือง โรงแรมและร้านค้าที่ตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วประเทศจีน

ที่ดิน 3 ใน 4 ของหมู่บ้านซ่งเจียโกวเป็นเป็นพื้นที่ลาดชัน ชาวบ้านมีชีวิตความยากจนมาเป็นเวลานาน เมื่อสองปีก่อนที่นี่ถูกจัดให้เป็นแหล่งรองรับครอบครัวที่อพยพมาจาก14 หมู่บ้านใกล้เคียงรวม 265 คน ถึงปลายปี 2019  รายได้เฉลี่ยต่อคนของหมู่บ้านซ่งเจียโกวมีถึง 7,791 หยวน สามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้ทั้งหมด

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหมู่บ้านแห่งนี้ทุ่มเทพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวชนบทอย่างเต็มที่ โดยใช้ประโยชน์จากกำแพงเมืองจีนโบราณที่เหลือจากสมัยราชวงศ์ซ่งเพียงตอนเดียวในประเทศ และพื้นที่ทุ่งหญ้าที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน เมื่อปี 2019 หมู่บ้านซ่งเจียโกวได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 3A แห่งชาติที่แรกของอำเภอเก๋อแหลน

พร้อม ๆ กับการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวในชนบท ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวหมู่บ้านแห่งนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อนครอบครัวคุณเสิ่นทำการเพาะปลูกบนที่ดินไม่กี่โหม่ว เดี๋ยวนี้มีการขยายการเพาะปลูกถึง 12 โหม่ว หรือราว 5 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกมันฝรั่ง นอกจากขายแล้วแต่ละปียังมีเหลือ นอกจากนี้คุณเสิ่นยังเปิดร้านขายเส้นก๋วยจั๊บเย็น ปัจจุบันเขาได้กลายเป็น“ครอบครัวตัวอย่างที่แก้ความยากจนด้วยตัวเอง”ของหมู่บ้านซ่งเจียโกว

นอกจากพัฒนาการท่องเที่ยวแล้ว หมู่บ้านซ่งเจียโกว ยังทุ่มเทการพัฒนาเกษตรกรรม ในปี 2017 ทั้งหมู่บ้านบรรลุเป้าหมายหลุดพ้นจากความยากจนครบทุกครัวเรือน จนถึงปลายปี 2019 รายได้เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 8,816 หยวน

ความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงของหมู่บ้านเป็นแรงดึงดูดให้เยาวชนจำนวนไม่น้อยกลับสู่บ้านเกิด นายคัง เหว่ยตง คนรุ่นใหม่หลังปี 1990 กลับบ้านเกิดเมื่อปี 2017 ได้เปิดร้านค้าอีคอมเมิร์ซรวม 7 แห่ง

ปัจจุบันนี้ 116 หมู่บ้านในอำเภอเก๋อแหลนล้วนหลุดพ้นจากความยากจน พื้นที่ที่เคยยากจนในอดีตได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าให้เกิดมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

Bo/Lu/Zdan