วันแพทย์จีน

3 พฤศจิกายน 2017 คณะรัฐมนตรีจีนเห็นชอบให้วันที่ 19 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันแพทย์จีน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2018เป็นต้นไป ตามที่คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติเสนอ  แสดงให้เห็นว่าพรรคบริหารและรัฐบาลจีนให้ความสำคัญและยกย่องบุคลาการทางการแพทย์และผู้ปฎิบัติงานด้านสาธารณสุข ที่มีกว่า 11 ล้านคน

18 สิงหาคม 2020 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในนามรัฐบาลและประชาชนจีนได้ส่งความปรารถนาดีและกำลังใจให้กับบุคลาการทางการแพทย์และแวดวงสาธารณสุขทั่วประเทศ

วันแพทย์จีน_fororder_0819-1

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ลงนามคำสั่งมอบ"อิสริยาภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน"ให้แก่ศาสตราจารย์นายแพทย์จง หนานซานและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ"วีรบุรุษของประชาชน"ให้แก่นายแพทย์จาง โป๋หลี่ นายแพทย์จาง ติ้งอี่ว์และพลตรีหญิงเฉิน เวย ซึ่งท่านเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการต้านโควิด-19

วันแพทย์จีน_fororder_0819-2

ก่อนที่ศาสตราจารย์นายแพทย์จง หนานซานจะเป็นที่รู้จักทั่วโลกนั้น  สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้อุปมาว่าท่านคือ"ดร.ฟอซีฉบับจีน"  สิ่งที่เหมือนกันระหว่างสองท่านนี้คือเป็นที่เคารพรักของประชาชนทั้งประเทศ  ส่วนที่ต่างกันราวฟ้ากับดินคือ ศาสตราจารย์นายแพทย์จงหนานซานได้รับการยกย่องจากรัฐบาลและประชาชนจีนทั้งประเทศ  แต่ดร.ฟอซีกลับถูกประธานาธิบดีทรัมป์ผู้นำประเทศบีบอย่างหนัก แม้ชาวอเมริกันทั้งประเทศจะรักก็ตามที  และนี่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่มีผลต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19  ซึ่งปัจจุบันในจีนค่อนข้างปลอดภัย แต่ในสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตกว่าแสนเจ็ดหมื่นคน

วันแพทย์จีน_fororder_0819-3

แม้ทวีปเอเชียของเรามีผลการควบคุมโควิดค่อนข้างดี แต่ใช่ว่าโรคนี้จะหายไปโดยเร็ววัน  พวกเรายังคงต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ดังนี้

1.แม้ขณะนี้จะควบคุมโควิดได้ดี แต่ต้องระวังรอบสอง จะถอดหน้ากากได้เฉพาะสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนเท่านั้น

2.ต้องระวังผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่อย่าถึงขั้นกลัว เพราะพวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อ แต่ยากที่จะทำให้เกิดการระบาดใหญ่

3.ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการมากขึ้น เมื่อพบผู้ติดเชื้อเหล่านี้ จะต้องกักบริเวณเพื่อเฝ้าระวัง

4.ผู้ป่วยที่รักษาจนหายดีแล้ว ผลตรวจอาจพบว่าเป็นบวกอีก แต่อย่ากังวลมาก พวกเขาอาจมีโอกาสแพร่เชื้อกับคนอื่นหรืออาจไม่มีก็ได้

5.โควิด-19จะแพร่ระบาดในสัตว์หรือไม่ ยังไม่มีข้อสรุป  ขณะนี้ยังไม่มียารักษาโควิดโดยเฉพาะ  แต่มียาที่ใช้ในการรักษาแล้วได้ผล โดยเฉพาะยาจีนหลายชนิดที่ทดลองนำมาใช้รักษาแล้วได้ผลอย่างชัดเจน ทว่ายาแต่ละชนิดจะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการแตกต่างกัน

6.วัคซีนมีความสำคัญ ทุกประเทศเร่งวิจัยและผลิต แม้ภายในสิ้นปีนี้อาจมีวัคซีนออกมา แต่ไม่แนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีน ยกเว้นผู้ที่จำเป็น  สิ่งที่สำคัญกว่าคือต้องหาต้นตอและพยายามตัดหนทางการแพร่ระบาด

7.ผู้นำบางประเทศเสนอให้ปล่อยมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด จนเกิดภูมิต้านทานขึ้นมาเอง  เป็นวิธีที่โง่มาก ไม่ควรใช้วิธีที่เป็น"ธรรมชาติ"แบบนี้  ซึ่งบางประเทศมีผู้ติดเชื้อหลายล้านคนและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ

8.จนถึงปัจจุบันยังมี 2 มาตรการที่จะต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวด นั่นก็คือ การทิ้งระยะห่างระหว่างกันและสวมหน้ากากอนามัย

ท้ายสุดอยากเรียนว่า หลายประเทศมีระดับและระบบการรักษาพยาบาลดีกว่าจีน  แต่กลับตกอยู่ในความยากลำบาก ที่จริงเพียงเพราะพวกเขามองข้ามไม่ให้ความสำคัญกับเชื้อไวรัส จนทำให้แพทย์พยาบาลจำนวนมากต้องติดเชื้อ

เมื่อขุมพลังที่สำคัญในแนวหน้าล้ม ย่อมทำให้ทั่วประเทศไร้การควบคุม

ผิงผิงภูมิใจกับนโยบายต้านโควิดของประเทศจีน และขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะทีมที่เดินทางไปช่วยเมืองอู่ฮั้น มณฑลหูเป่ย ในช่วงที่ถือว่าอันตรายที่สุด  ขอให้ผู้กล้าทุกท่านมีความสุขและมีสุขภาพดี  ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)