เชื่อว่าหลายคนอยากจะมาเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีนกันเนอะ บางคนอาจจะมาเรียนเพื่อหน้าที่การงานที่ดีขึ้น, เพื่อเพิ่มความสามารถของตัวเอง, เรียนเพื่อดูซีรีส์ให้รู้เรื่องมากขึ้น (อันนี้มีจริงๆ นะทั้งคนจีนและคนไทย), เพื่อมาหาลู่ทางทำธุรกิจ (เช่น ทำธุรกิจในจีนเอง นำเข้าส่งออกสินค้าจีน-ไทย, พรีออเดอร์สินค้าจากเถาเป่า) เป็นต้น

ย้อนกลับไปปี2013 ตี๋น้อยได้ทุนนักศึกษาแลกเปลี่ยน จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพมาเรียนภาษาจีนที่กว่างโจว ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่มาใช้ชีวิตที่ประเทศจีนของตี๋น้อยเลยครับ

มาเล่าถึงชีวิตและการเรียนภาษาจีนในประเทศจีนกันต่อ

พอตี๋น้อยมาถึงจีนช่วงวันแรกๆ ทางมหาวิทยาลัยที่นี่จะมีการสอบวัดระดับภาษาเพื่อแบ่งห้องเรียนตามระดับภาษาโดยจะแบ่งเป็น “ระดับ” เพื่อให้เห็น “ระดับ” ชัดเจนขอแบ่งเป็น ระดับ ประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยนะครับ

มาเริ่มที่ระดับประถม（初 ชู) อันนี้คือคลาสเรียนภาษาจีนพื้นฐานโดยจะแบ่งเป็นห้องเรียนแยกย่อยโดยจะแบ่งเป็น(初一 ชูอี )สำหรับ คนที่พูดภาษาจีนไม่เป็นเลย (初二 ชูเอ้อ) สำหรับคนที่พูดจีนได้ดีกว่าพูดจีนไม่เป็นเลยนิดนึง (初三 ชูซาน)อันนี้สำหรับคนที่พอพูดจีนได้ในระดับเกือบพื้นฐานแล้ว

โดยนักเรียนในระดับนี้จะพยายามสื่อสารกันเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษปะปนกันไป

ต่อกันที่ระดับมัธยม (中 จง) ในระดับนี้จะเป็นคลาสสำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาจีนอยู่แล้ว จะแบ่งเป็น (中一 จงอี) คลาสนี้สำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาจีน อยู่แล้วสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ค่อนข้างดี  （中二 จงเอ้อ) ในระดับนี้จะสำหรับ คนที่พูดภาษาจีนได้ดี สื่อสารได้อย่างชัดเจนกว่าระดับจงอี (中三 จงซาน) นี่เป็นระดับสุดท้ายของระดับมัธยม เปรียบเหมือนกับเราอยู่มัธยมศึกษาปีที่6 กำลังจะขึ้นระดับมหาวิทยาลัย

ในระดับนี้นักเรียนต่างชาติจะสื่อสารกันเป็นภาษาจีนทุกๆ อย่าง

ระดับมหาวิทยาลัย（高เกา) ในระดับนี้จะเป็นคลาสสำหรับภาษาจีนระดับสูง จะมีการเรียนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมจีนต่างๆ คือระดับเรียนแต่งกลอนได้เลยทีเดียว

ในระดับนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสื่อสารเลย คล่องปรื๊ดดดดดด!!!!

มาต่อกันที่ชีวิตการเรียนภาษาในจีนกันบ้าง ก่อนอื่นเลยเรามาถึงจีนแล้วทางมหาวิทยาลัยจะมีการจัดห้องพักไว้ให้เรา โดยส่วนใหญ่จะจัดให้มีรูมเมทชาติเดียวกันเพื่อป้องกันปัญหาความต่างทางวัฒนธรรมและความคิด และจะแยกชั้น ชายหญิง (แต่บางคนก็แหกกฎมาอยู่ด้วยกัน) ส่วนใหญ่นักเรียนต่างชาติมักจะจับกลุ่มชาติเดียวกันเอง เช่น คนไทยก็มักจะจับกลุ่มกับคนไทยด้วยกัน (ส่วนตัวแนะนำว่า เราควรอยู่กับคนไทยเองบ้าง ชาวต่างชาติบ้าง สลับๆ กันไปเพื่อการพัฒนาภาษา เพราะมาเรียนต่างประเทศก็ไม่อยากให้ได้ภาษาไทยกลับไปนะครับ 5555) ในบางครั้งการทะเลาะกันเองระหว่างชาติเดียวกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องก็มีให้เห็น (อันนี้ส่วนใหญ่เกิดในน้องๆ ทั้งหลายที่เพิ่งเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย)

สำหรับคนที่อยากพัฒนาภาษาจีนของตัวเองเร็วๆ ส่วนตัวผมใช้วิธีขอให้อาจารย์ช่วยแนะนำเพื่อนคนจีนให้ (ป.ล. เราสามารถล็อคสเป็คได้ว่าอยากได้ ชาย หรือ หญิง) เพราะอาจารย์เหล่านี้จะสอนภาษาต่างประเทศให้นักศึกษาจีนอยู่แล้ว ซึ่งอันนี้จะช่วยได้มาก เพราะว่ามันไม่มีคำว่า ครู นักเรียน เป็นตัวคั่นกลาง เราสามารถคุยกับพวกเขาได้ทุกเรื่อง เรามีปัญหาพวกเขาจะมาช่วยเราเต็มความสามารถ พาเราเที่ยวรอบเมือง เวลาเรามีปัญหาต่อราคากับร้านค้าจะช่วยต่อราคาให้แบบสุดๆ ส่วนถ้าเขามีปัญหาเช่นเรียนไม่เข้าใจ เราก็พยายามช่วยเขาเท่าที่ทำได้เช่นกัน เรียกว่า ช่วยเหลือซึ่งกันและกันก็ว่าได้ อันนี้จะทำให้ชีวิตการเรียนภาษาอยู่ในประเทศจีนของเราจะง่ายขึ้นมากๆ เลยครับ

ส่วนเรื่องอาหารการกิน  ไลฟ์สไตล์ต่างๆ อันนี้แล้วแต่คนนะครับ เราต้องปรับตัวให้ได้เอง แต่มีเพื่อนชาวต่างชาติและชาวจีนช่วยอยู่แล้ว อันนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วล่ะว่าจะปรับตัวได้ไหม...