ตี๋น้อยมองว่าคนจีนค่อนข้างชื่นชอบในมะพร้าวไทยและกะทิไทยกันค่อนข้างมากนะครับ สังเกตได้จากเวลาเดินตามห้าง เราเดินไปตามโซนผลไม้เราจะเจอมะพร้าวไทยติดคำว่า Products of Thailand วางอยู่  พนักงานเอามาวางทีไรก็หมดตลอด ด้วยความที่ว่า มะพร้าวไทย หวานกว่า และหอมกว่า มะพร้าวไหหลำ (ส่วนตัวผมว่ามะพร้าวไหหลำค่อนข้างจืดนะ) และเราเองจะเห็นได้จากยอดคอมเมนต์ร้านมะพร้าวไทย ใน Tmall และ JD.com สูงหลายหมื่นคอมเมนต์ และไม่ใช่ร้านมะพร้าวไทยในสองเว็บชื่อดัง มีร้านเดียวนะครับ มีเป็นสิบๆ ร้านเลย จะเห็นได้ว่ามะพร้าวไทยค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนกันมากๆ

เวลาเราไปห้างต่างๆ ในโซนของนำเข้าเรายังเห็นน้ำมะพร้าวไทยยี่ห้อต่างๆ วางจัดจำหน่ายในสัดส่วนที่มากกว่าชาติอื่นๆ เท่าที่ตี๋น้อยสังเกตด้วยสายตาน่าจะมีสัดส่วนกว่า 60% ของน้ำมะพร้าวนำเข้านะครับ

สิ่งที่เห็นนั้นค่อนข้างบ่งบอกถึงความนิยมของมะพร้าวไทยในจีนพอสมควรเลยทีเดียว

ทีนี้มาพูดถึงผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวอย่างกะทิกันบ้าง

กะทิในจีนจะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ กะทิฮ่องกง กะทิไหหลำ และกะทิไทย

กะทิฮ่องกง และ กะทิไทยจะได้รับความนิยมในเรื่องของเครื่องดื่มอย่างมาก จะสังเกตได้จากตามร้านอาหารหรือภัตตาคารต่างๆ มักจะมีน้ำกะทิสดฮ่องกง หรือ ของไทย ติดร้านเสมอ หรือตามร้านโชห่วยเองก็เช่นกัน มักจะมีน้ำกะทิฮ่องกงหรือกะทิไทยติดร้านไว้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่าทำไมเราเห็นนักท่องเที่ยวจีนดื่มกะทิกล่องของไทย

ในส่วนของกะทิสำหรับทำอาหาร ตัวนี้ กะทิไหหลำ กับกะทิไทย จะได้รับความนิยมที่สุด เพราะกะทิไทยจะมีความหวานความหอม คนจีนจึงนิยมใช้กะทิไหหลำ กะทิไทย ในการทำอาหารและทำขนม โดยจะเห็นได้ว่าคนจีนนิยมรับประทาน ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน ร้านไหน ก็จำเป็นต้องมีเมนูข้าวเหนียวมะม่วงแทบทุกร้าน (ก็ของมันต้องมีอะเนอะ) เวลานักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จะมักจะสั่งหรือถามถึงข้าวเหนียวมะม่วงกันเป็นส่วนใหญ่

ในเว็บชอปปิ้งออนไลน์ก็เช่นกัน เราจะเห็นว่า เว็บไซต์ดังๆ อย่าง เถาเป่า Tmall JD.com ก็จะมีกะทิกระป๋อง กะทิกล่อง ของไทยหลากหลายแบรนด์วางขายในร้าน แต่ละร้านก็มียอดคอมเมนต์จากผู้บริโภคหลายพันหลายหมื่นคอมเมนต์เหมือนกัน

ป.ล.ในจีนยอดคอมเมนต์เยอะๆ นี่คือสะท้อนถึงความนิยมในตัวสินค้าของร้านนั้นๆ