10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน (ตอนที่ 3)

2021-03-12 20:38

มาถึงตอนสุดท้ายของบทความ ซึ่งมีประโยชน์ต่อนักการตลาดและแบรนด์เป็นอย่างมาก นั้นคือ Social Application และ Search Engine ของชาวจีน หากได้รู้จักและทำความเข้าใจ พร้อมทั้งใช้ร่วมกับ Application ในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ของบทความนี้ รับรองได้เลยว่าแบรนด์ หรือบริษัทเอง ก็สามารถเอาชนะใจชาวจีน และผลิตสิ่งที่พวกเขาต้องการออกส่งสู่ตลาดแดนมังกรได้

Social Application

  • Weibo  

10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน  (ตอนที่ 3)_fororder_1380392298

รูป1: Weibo

Weibo หรือที่คนไทยส่วนมากเรียกว่า เวยป๋อ เปรียบเสมือน Twitter ของชาวจีน ซึ่งเป็น Application ที่ใช้ติดตามเรื่องราวบันเทิงคนดัง อะไรฮิต อะไรเป็นกระแสในช่วงเวลานั้น ก็สามารถติดตามจาก Weibo ปัจจุบันมีผู้ใช้งานสูงถึง 4.86 ร้อยล้านราย มีผู้ใช้รายวัน 2.11 ร้อยล้านราย มีคลิปโพสต์ถึง 1,300,000 คลิปต่อวัน โพสต์ภาพสูงถึง 100 ล้านรูป โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมติดตาม เน็ตไอดอล นักเขียน แบรนด์ของจีนเอง หรือแบรนด์จากต่างประเทศ หากต้องการผลิตคอนเทนต์ลงใน Weibo ถือว่าเหมาะมากเพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่เน้นให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ใน Weibo และสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่ม Engagement ให้กับคอนเทนต์โดยการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์หรือ KOLs และไม่พลาดทำคอนเทนต์เกี่ยวกับวันหยุดสำคัญของชาวจีน เพราะชาวจีนถือว่าวันหยุดเป็นสิ่งจำ              เป็นอย่างมาก

  • Douyin

10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน  (ตอนที่ 3)_fororder_1773576907

รูปที่2: Douyin

คงไม่คุ้นหูนักหากเรียกว่า Douyin เพราะชื่อสากลคือ Tik Tok ซึ่งหากพูดถึง Tik Tok ทุกคนรู้จักในนามของ แพลตฟอร์มสำหรับดูคลิปวิดีโอสั้นๆ และทั้งสองคือ Application เดียวกันที่เป็นสัญชาติจีน แต่ทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันในแง่ของการใช้งานคือ Douyin เปิดให้ใช้เฉพาะชาวจีน ผู้ใช้ส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงอายุ 25-30 ปี

ในปีที่ผ่านมา 2020 มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 50% โดยคิดเป็นจำนวนคน 250 ล้านคนในปี 2019 และ 400 ล้านคนในปี 2020 ได้มีการคาดการณ์โดย eMarketer ว่าผู้ใช้งาน จะเพิ่มขึ้นเป็น 556 ล้านคนภายในปี 2023 ในทางกลับกัน Tik Tok เปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะชาวต่างชาติ ยกเว้นชาวจีน ใน Douyin เหมาะสำหรับสินค้าที่ผู้ผลิตต้องการจะโฆษณาสินค้าผ่านการใช้คลิปวิดีโอสั้นๆ จุดเด่นของ Douyin คือหากมีหน้าร้าน Taobao สามารถเชื่อมต่อได้กับแอคเคาท์เลย ซึ่งนี่เป็น วิธีที่ทำให้ลูกค้าที่มีความสนใจสามารถซื้อสินค้าได้ทันทีในระหว่างการดูวิดีโอ และหากบอกคุณประโยชน์ วิธีการใช้ของสินค้าตัวนั้นก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้คนสนใจในสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น 

  • Toutiao

10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน  (ตอนที่ 3)_fororder_963549443

รูปที่3: Toutiao

สำหรับ Toutiao เป็นแพลตฟอร์มที่กระจายข่าวสารให้ชาวจีนได้รับรู้ นอกจากเป็นแพลตฟอร์มรวบรวม

คอนเทนต์ ทาง Toutiao ก็มี Section ให้ผู้ใช้งานรับชมวิดีโอสั้นๆ ความยาว 10-15 วินาที เนื้อหาเน้นไปทางบันเทิง Toutiao มีผู้ใช้งานต่อวันมากถึง 200 ล้านคน และพุ่งเป้าไปที่ ผู้ใช้อายุ 18-30 ปี ผู้ใช้งานบางส่วน จบปริญญาตรี ผู้ใช้งานบางส่วน เป็นเจ้าของกิจการและพนักงานบริษัทเอกชน เนื้อหาใน Toutiao จะผ่านการคัดกรอง มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ ความน่าสนใจของ Toutiao คือ ส่งคอนเทนต์ตามความสนใจของผู้ใช้งานผ่าน AI อัลกอริทึม นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ไม่ควรพลาดในการใช้ประโยชน์จาก AI อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มนี้ การโฆษณาใน Toutiao แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน 1. โฆษณาแบบเปิดเต็มหน้าจอ กลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาเต็มหน้าจอของพวกเขา 2.โฆษณาในหน้าฟีด มีหลากหลายเค้าโครง เช่น ข้อความที่มาพร้อมกับรูปภาพขนาดเล็ก หรือ โพสต์แบนเนอร์ และแบบสุดท้ายคือ โฆษณาในรูปแบบวิดีโอหน้าฟีด Toutiao จัดว่าเป็นแพลตฟอร์มในการเสพเนื้อหา และนี่เองเป็นส่วนทำให้แบรนด์สามารถเสนอสินค้าได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผ่านการสร้างคอนเทนต์

  • Youku 

10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน  (ตอนที่ 3)_fororder_995540230

รูปที่4: Youku

ที่ประเทศจีนไม่ใช้ Youtube แล้วเขาใช้อะไรแทนกันละ Youku คือ Youtube ของชาวจีน ปี 2020 Youku ติด 1 ใน 7 ออนไลน์ Video Platform บนแพลตฟอร์มสามารถอัพโหลดวิดีโอ รวมไปถึงการดูกีฬา ดูภาพยนตร์ หรือสารคดีมีผู้ใช้งานมากกว่า 407 ล้านราย ชาวจีนใช้เวลาบน Youku เฉลี่ย 4 ชั่วโมง ในการดูวิดีโอ และผู้ชายมีสัดส่วนมากกว่าผู้หญิง โดยผู้คนส่วนมากใช้เวลามองหาวิดีโอที่มีความรู้ มีสาระ และน่าเชื่อถือผ่าน Youku นี่จึงเป็นจุดให้แบรนด์สามารถสร้างวิดีโอและนำเสนอสินค้าลงแพลตฟอร์ม โดยจุดประสงค์คือการสร้างยอดวิวให้สูง ยิ่งได้รับยอดวิวมาก ก็เปรียบเสมือนได้รับการันตีคุณภาพ พร้อมทั้งผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณค่าลงบนแพลตฟอร์มและสามารถเอาชนะใจชาวจีนได้ในที่สุด  

  • Baidu

10 Application ห้ามพลาด ถ้าอยากทำการตลาดกับชาวจีน  (ตอนที่ 3)_fororder_1898250856

รูปที่5: Baidu

Search Engine ที่เหล่าชาวจีนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Baidu อ้างอิงจาก Statcounter ส่วนแบ่งการตลาดของ Baidu ในจีนคือ 69.71% และได้รับส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดโดยไล่ลำดับตามนี้ Baidu 69.71% Sogou 21.55% และ Shenma 1.57% ข้อมูลนี้จึงโชว์ได้ว่า การทำตลาดบน Baidu เป็นสิ่งที่น่าลงทุนลงแรง และมีโอกาสที่จะได้รับยอดขายที่เติบโตกลับมา การทำการตลาดผ่าน Baidu สามารถทำโดยการใช้ SEO หรือ Seach Engine Optimization โดยมีปัจจัยหลายอย่างในการทำให้คอนเทนต์ถูกจัดแสดงในหน้าแรกของการค้นหา เช่นเนื้อหา รูปแบบเว็บไซต์ และปัจจัยอื่นๆ เทคนิคการทำ SEO ใน Baidu มีเพียงแค่ภาษาจีน และมี 2 แบบ ภาษาจีนตัวย่อและเต็ม ตัวเต็มใช้ในไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า ส่วนภาษาจีนตัวย่อ ใช้ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การทำการตลาดใน Baidu ขั้นต่อมาคือการทำ Baidu Location เพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ชาวจีนรู้แหล่งที่อยู่สินค้าของเราว่าตั้งอยู่ ที่ไหน โดยส่วนมากคนจีนส่วนใหญ่นิยมใช้ Baidu Maps ในการหาร้านค้า โรงแรม และสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย นี่จึงเป็นเหตุผลที่แบรนด์ควรสร้าง Baidu Location  

หลังจากรู้จัก 10 Applicaiotion ที่จำเป็นต้องศึกษาก่อนลุยแดนมังกร การศึกษาถึงภาษา วัฒนธรรมของชาวจีนก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน มีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ โดยทำให้แบรนด์กลมกลืนกับวัฒนธรรมจีน มีการปรับเปลี่ยน ประยุกต์อาหารให้เข้ากับชาวจีน เช่น แมคโดนัลด์ ปรับปรุงอาหาร โดยทำซาลาเปาไส้เบอร์เกอร์และ Starbucks เองทราบดีว่า ชาวจีนนิยมชา จึงได้ปรับปรุงเมนูให้มีชามากขึ้น บางสาขาก็มีการปรับเปลี่ยนหน้าร้าน      ให้มีความเป็นจีนมากยิ่งขึ้น ในประเทศจีนมีแบรนด์ประสบความสำเร็จ แบรนด์ที่ล้มไม่เป็นท่าก็มีเช่นกัน เพียงเพราะโฆษณาตัวเดียว แบรนด์ D&G ปล่อยโฆษณา นักแสดงสาวเอเชียทานสปาเกตตีด้วยตะเกียบ ยิ่งไปกว่านั้นมีเสียงพากย์แทรก โดยการพูดว่ากินอาหารอิตาลีอย่างไรให้ถูกต้อง ซึ่งชาวจีนมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติและเหมารวม เพราะชาวจีนไม่ได้ใช้ตะเกียบกินกับอาหารทุกประเภท นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงต้องศึกษาวัฒนธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้ละเอียดอ่อนมาก นอกจากวัฒนธรรม การให้ความสำคัญในวันหยุดของชาวจีนก็เป็นสิ่งที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง เพื่อสร้างโปรโมชันในวันต่างๆ ตัวอย่างวันสำคัญของชาวจีน มีดังนี้ ตรุษจีน 11.11 12.12 ช่วงวันพิเศษเหล่านี้ถือเป็นโอกาสในการช่วงชิงตลาด และกอบโกยเงิน อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการร่วมงานกับ KOLs เพราะในยุคปัจจุบันการได้ Creditability จากเหล่าเน็ตไอดอลถือเป็นสิ่งจำเป็น หากแบรนด์เองมีสินค้าที่มีคุณภาพ แต่ขาดการยืนยันจากเหล่าเน็ตไอดอล หรือเหล่าคนดัง ก็อาจจะทำให้แบรนด์ไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีน เพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ตอนนี้การส่งออกสินค้าไปในจีนอาจยังไม่สะดวกเท่ายุคก่อนโควิด นี่ถือเป็นโอกาสดีของนักการตลาดชาวไทย หรือแบรนด์ไทยที่อยากศึกษาเกี่ยวกับ Application ที่ชาวจีนนิยมใช้   หากไม่แน่ใจเรื่องการใช้ภาษาที่จะสื่อออกมาเพื่อให้โดนใจชาวจีน การจ้างที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญก็สามารถช่วยได้เช่นกัน หากสามารถตีตลาดจีนได้แล้วและมีโอกาสได้เข้าไปมี Partner กับชาวจีนแล้ว ควรมีความเชื่อใจ และซื่อสัตย์ต่อพวกเขา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชาวจีนให้ความสำคัญกับมิตรภาพ หากพวกเขาเชื่อใจใคร การตัดสินใจทำธุรกิจด้วยกันในครั้งถัดไปก็เป็นเรื่องง่าย

ที่มาของเนื้อหา

https://mgronline.com/business/detail/9630000003712

https://www.taradjeen.com/17090173/การตลาดออนไลน์จีน-ไม่อยากอย่างที่คิด

https://www.rainmaker.in.th/6-hostest-application-in-china/

https://seoagencychina.com/douyin-new-e-commerce-strategy-to-reach-chinese-millenials/

ที่มาของรูป

รูปที่1: https://www.businessofapps.com/news/sina-weibo-revenue-and-statistics/

รูปที่2: https://en.wikipedia.org/wiki/TikTok

รูปที่3: https://econsultancy.com/bytedance-new-search-engine-succeed-china-toutiao-baidu/

รูปที่4: https://logo-logos.com/youku-youku-com-logo-833.html

รูปที่5: https://en.wikipedia.org/wiki/Baidu

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)