เมื่อ 8 ปีก่อน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนคาซัคสถานและอินโดนีเซีย ระหว่างเยือนได้เสนอข้อริเริ่มสำคัญ คือ ร่วมกันสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 กับประเทศรายทาง ร่วมมือกันสร้างแพล็ตฟอร์มที่เปิดกว้าง เพื่อให้พลังขับเคลื่อนใหม่ต่อความร่วมมือและการพัฒนาของประเทศต่างๆ

ปัจจุบัน “1 แถบ 1 เส้นทาง” กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมที่สุดของโลก ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ข้อริเริ่ม“1 แถบ 1 เส้นทาง”ได้นำโอกาสและผลประโยชน์ใหญ่หลวงให้กับประเทศต่างๆของโลก ขณะนี้มี 140 ประเทศได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือ  “1 แถบ 1 เส้นทาง” กับจีนแล้ว ยอดการค้าระหว่างหุ้นส่วนความร่วมมือกับจีนเกินกว่า 9.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทและวิสาหกิจจีนมีการลงทุนโดยตรงต่อประเทศรายทางเกินกว่า 130,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  “1 แถบ 1 เส้นทาง” กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดอย่างแท้จริง

ต้นปีนี้ นายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนก็ได้เข้าร่วมการประชุมสำคัญหลายครั้ง อาทิ การประชุม"กำหนดการดาวอส"ฟอรั่มเศรษฐกิจโลก การประชุมโป๋อ๋าวเอเชียประจำปี 2021 และการประชุมผู้นำเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ เป็นต้น และมีข้อเสนอสำคัญหลายประการ เช่น การผลักดันกระบวนการเป็นหนึ่งเดียวกันของเศรษฐกิจภูมิภาคให้ลงลึกยิ่งขึ้น กุมโอกาสการสร้างนวัตกรรมของเทคโนโลยี ร่วมกันผลักดันการสร้างสรรค์“1 แถบ 1 เส้นทาง”ให้พัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง เป็นต้น  

“1 แถบ 1 เส้นทาง” เป็นหนทางสว่างสำหรับการร่วมมือและการพัฒนาของประเทศต่างๆ ไม่ใช่หนทางเล็กเฉพาะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศที่สนใจล้วนสามารถเข้าร่วม ร่วมมือกันและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน การร่วมสร้าง“1 แถบ 1 เส้นทาง” ก็เพื่อแสวงหาการพัฒนา ได้รับประโยชน์และส่งต่อความหวังอนาคตร่วมกัน

ดั่งที่นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนยินดีร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ  สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วน “1 แถบ 1 เส้นทาง” ที่มีความใกล้ชนิดมากยิ่งขึ้น ยืนหยัดเดินบนหนทางสามัคคีร่วมมือ มีการเชื่อมต่อด้านต่างๆ เพื่อการพัฒนาและสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตรร่วมกัน

(Yim/Lin/Yanzi)