2022-05-13 15:08
สหรัฐฯ ในฐานะมหาประเทศเพียงหนึ่งเดียวบนโลก มีใบหน้าที่ต่างกันออกไป เมื่อตระหนี่ขึ้นมาสหรัฐฯ จะไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของประชาชนทั่วไป ส่วนพันธกรณีสากลและความรับผิดชอบของมหาประเทศนั้นก็โยนทิ้งข้ามศีรษะ แต่เมื่อมือเติบขึ้นสหรัฐฯ ก็จะทิ้งเงินก้อนยักษ์เพื่อก่อสงคราม
วันที่ 10 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติผ่านโครงการช่วยเหลือยูเครนวงเงินราว 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือทางทหารเกือบ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทว่าในโครงการช่วยเหลือประเทศอเมริกากลางเพื่อการพัฒนานั้น สหรัฐฯ ไม่ได้บริจาคเงินแก่ประเทศที่เกี่ยวข้องแม้แต่เซนต์เดียวแม้ผ่านการเจรจามาเป็นเวลา 4 ปีก็ตาม
ในเรื่องค่าสมาชิกสหประชาชาตินั้น สหรัฐฯ ค้างชำระกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่ถึงขั้นเศษเงินของวงเงินช่วยเหลือยูเครน แต่จะชำระเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจทราบได้
ในเรื่องของสหรัฐฯ เอง เดือนมีนาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยื่นร่างงบประมาณรายจ่ายปีการคลัง 2023 ต่อรัฐสภา ในจำนวนดังกล่าวเป็นงบประมาณทหารสูงถึง 813,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ เดือนเดียวกันพรรคเดโมแครตเพิกถอนงบประมาณรายจ่ายสำหรับการรับมือโควิด-19 วงเงิน 15,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหันไปเพิ่มงบช่วยเหลือยูเครนวงเงิน 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ แตะระดับเกือบ 1 ล้านรายแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นสหรัฐฯ ยังรุกรานอัฟกานิสถานมานาน 20 ปี ธุรกิจทางการทหารผนึกกับอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ กอบโกยประโยชน์มากที่สุด สหรัฐฯ ในฐานะผู้สร้างวิกฤตอัฟกานิสถาน เมื่อถอนกองทัพออกไปแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ได้ชดเชยค่าเสียหายแก่ประชาชนอัฟกานิสถานเท่านั้น หากยังยึดเงินช่วยชีวิตของประชาชนอัฟกานิสถานไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย ซึ่งเป็นการกระทำแบบโจรผู้ร้ายที่เผยโฉมหน้าจริงของ “สหรัฐฯ ผู้เป็นอันธพาล”
ภายใต้ใบหน้าที่แตกต่างและดูขัดแย้งกัน ที่แท้มีการไตร่ตรองเรื่องเดียวกัน คือ บ่อเกิดของเงินทองกับอำนาจนิยม ความปั่นป่วนก็คือบ่อเกิดของเงินทอง สหรัฐฯ เป็น “บ่อเกิดความปั่นป่วนใหญ่สุดของโลก” หากไม่รามือก็จะเที่ยวก่อภัยพิบัติและความยุ่งยากแก่โลกมากขึ้น
(TIM/LING/CAI)